สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงเมื่อวันศุกร์ ยกระดับมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียเพิ่มเติม สืบเนื่องจากวิกฤติการณ์ในยูเครน ด้วยการระงับนำเข้าเพชร อาหารทะเล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงวอดก้าของรัสเซีย ตลอดจน “สินค้าฟุ่มเฟือย” อีกหลายรายการที่ผลิตและส่งออกมาจากรัสเซียด้วย โดยผู้นำสหรัฐเชื่อมั่นว่า การเพิ่มแรงกดดันครั้งนี้ จะทำให้รัสเซียค้าขายกับอเมริกาได้ยากขึ้น
As Putin continues his merciless assault, the United States and our allies and partners continue to work in lockstep to ramp up the economic pressure on Putin and to further isolate Russia on the global stage. pic.twitter.com/W5qiDuj9VZ
— President Biden (@POTUS) March 11, 2022
ขณะเดียวกัน สหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) และกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ “จี 7” มีมติร่วมกัน ยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้า “ชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง” (Most Favoured Nation : MFN) หรือ “เอ็มเอฟเอ็น” ของรัสเซีย หมายความว่า จากเดิมที่ภาครัฐและภาคเอกชนของรัสเซียได้รับการปฏิบัติทางการค้าอย่างเท่าเทียมตามมาตรฐานโลก “จะไม่มีอีกต่อไป” ทำให้นับจากนี้ สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกจะสามารถกำหนดและเพิ่มกำแพงภาษีสินค้าและบริการของรัสเซียได้ ยิ่งเป็นการโดดเดี่ยวเศรษฐกิจของรัสเซีย ในระดับเดียวกับเกาหลีเหนือ และคิวบา
Biden touts the impact sanctions have had on the Russian economy following a new ban on vodka, seafood and diamond imports.
— Bloomberg Quicktake (@Quicktake) March 11, 2022
"You'd need 200 rubles to equal $1 today" https://t.co/qHRavZoSAS pic.twitter.com/x03qMaVaAk
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 3 วัน หลังผู้นำสหรัฐประกาศมาตรการ “โจมตีเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจรัสเซีย” นั่นคือ “การระงับนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) และพลังงานทุกชนิดที่มาจากรัสเซีย” หมายความว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ท่าเรือของสหรัฐจะไม่ยอมรับเรือบรรทุกน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน แอลเอ็นจี และพลังงานทุกชนิด ซึ่งมีต้นทางมาจากรัสเซียอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ไบเดนยอมรับและเตือนทุกภาคส่วนในสหรัฐ ว่า “การปกป้องเสรีภาพย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย” โดยอเมริกันชนจะได้รับแรงเสียดทานเพิ่มขึ้น จากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ยืนยันว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ไข.
เครดิตภาพ : REUTERS