สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียเข้ามาปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา กองทัพยูเครนสูญเสียกำลังพลไปแล้วประมาณ 1,300 นาย อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของความเสียหายจากการโจมตีบ่งชี้ว่า เมืองขนาดเล็กบางแห่งในประเทศ “พังราบเป็นหน้ากลอง” จนยากที่จะฟื้นฟูได้อีก
"Around 1,300" Ukrainian troops have been killed since Russia invaded its pro-Western neighbor, the country's President Volodymyr Zelenskiy said on Saturday as Moscow's forces closed in on the capital Kyivhttps://t.co/EQoYRfwqiC
— The Moscow Times (@MoscowTimes) March 12, 2022
ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนยังคงยืนยันว่า ทหารทุกนายจะต่อสู้จนถึงที่สุด เพื่อต้านทานการรุกรานของกองทัพรัสเซีย แต่จะยกเว้นพื้นที่ซึ่งมีการตกลงให้เป็น “ระเบียงมนุษยธรรม” หนึ่งในนั้นคือเมืองมาริอูโปล ซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตอนใต้ และเรียกร้องรัฐบาลมอสโกปฏิบัติแบบเดียวกัน
Fighting raged near Kyiv and Ukrainian officials said heavy shelling and threats of Russian air attacks were endangering attempted evacuations of desperate civilians from encircled towns and cities elsewhere https://t.co/9T4W1E3oRv pic.twitter.com/aAZ3fKVWY6
— Reuters (@Reuters) March 12, 2022
เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการเจรจาระดับผู้นำ เซเลนสกียืนยันว่า เขามีความพร้อมพบหารือโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เขาขอให้นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ผู้นำอิสราเอล ทำหน้าที่คนกลาง และเสนอการเจรจาที่เมืองเยรูซาเลมของอิสราเอล
ด้านนายเซอร์เกล ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ว่ารัฐบาลมอสโกไม่ปิดกั้นโอกาสและความเป็นไปได้ ในการเจรจาโดยตรงระหว่างปูตินกับเซเลนสกี ตราบใดที่การพบหารือ “ไม่ใช่แค่คุยผิวเผิน”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES