สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ว่า “แม่ครับ ลองไปปลูกต้นไม้ที่มองโกเลียในดูดีไหม ถ้าเราคิดจะทำแล้วเราก็ต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ถึงที่สุดนะแม่” นี่คือคำพูดที่ลูกชายผู้ล่วงลับของ “อี้ เจี่ยฟ่าง” เคยบอกกับเธอเมื่อปี 2543 ก่อนที่เขาจะจบชีวิตลง เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพียงครึ่งเดือนถัดมา
สิ่งนี้กลายเป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้ อี้ เจี่ยฟ่าง ซึ่งปัจจุบันอายุ 74 ปี และสามี ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าปลูกต้นไม้เพื่อทำความฝัน “สร้างผืนดินสีเขียว” ของลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวคนนี้ให้กลายเป็นจริง
ตั้งแต่ปี 2003 จนถึงวันนี้ สองสามีภรรยาเดินหน้าพลิกผืนทรายสู่พื้นที่สีเขียวอย่างไม่ลดละ ผ่านการทำสัญญาความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น โดยตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ครบ 40,000 หมู่ (ราว 16,600 ไร่) ภายในปีนี้
“ถ้าต้นไม้หนึ่งต้นมีราคา 10 หยวน เราก็ต้องใช้เงินราว ๆ 10 ล้านหยวน” อี้กล่าวพร้อมเล่าว่าตนกับสามีนำเงินเก็บของตัวเองและเงินที่ได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 3 แห่ง รวมถึงเงินชดเชยและเงินประกันอุบัติเหตุที่ได้จากการเสียชีวิตของบุตรชาย มาใช้ในภารกิจปลูกต้นไม้ในทะเลทราย และมอบให้ชาวบ้านท้องถิ่นที่มีส่วนร่วมในโครงการเหล่านี้ ในอำเภอคู่หลุน อำเภอเติ้งโข่ว ไปจนถึงอำเภอตัวหลุน ของเขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน
งานปลูกต้นไม้ในทะเลทรายไม่ใช่เรื่องง่าย เคยมีคนบอกให้อี้จ้างคนมาทำแทนก็พอ เธออายุมากแล้วไม่ควรลำบากเดินทางมาทำด้วยตัวเอง เพราะกว่าจะมาถึงต้องนั่งเครื่องบิน ต่อรสบัส และต่อรถม้าอีกทีซึ่งกินเวลายาวนาน แต่อี้ตอบว่า เธอรู้สึกสบายใจมากกว่า หากได้ลงมือทำเอง และตนก็อยากมีส่วนร่วมกับอาสาสมัครทุกคน หญิงสูงวัยคนนี้รักและห่วงใยต้นไม้ทุกต้น ราวกับว่าพวกมันเป็นตัวแทนของลูกชายที่จากไป

จนกระทั่งปี 2561 ทีมงานของอี้สร้างแนวพื้นที่สีเขียวในทะเลทรายของมองโกเลียในไปทั้งสิ้น 30,000 หมู่ (ราว 12,500 ไร่) ด้วยการปลูกต้นไม้รวม 8 ล้านต้น น่ายินดีที่ต้นไม้เหล่านี้มีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่าร้อยละ 85
อี้ เล่าว่า ในปี 2020 พวกตนปลูกต้นไม้ในเมืองตุนหวง มณฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ได้ราว 2,000 หมู่ (ราว 830 ไร่) ก่อนจะขยับเป็น 3,000 หมู่ (ราว 1,250 ไร่) เมื่อปี 2564 “และปีนี้เป้าหมายของเราคือ ปลูกเพิ่มอีก 5,000 หมู่ (ราว 2,080 ไร่) คาดว่าพอถึงปลายปีนี้ ต้นไม้ที่เราปลูกจะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 10 ล้านต้น” หญิงชรากล่าวอย่างแน่วแน่

แม้การปลูกต้นไม้จะฝากรอยแผลนับไม่ถ้วน ทั้งยังเป็นสาเหตุของการเจ็บหนักหลายครั้งของอี้ แต่เธอเผยว่า “ความปรารถนาของลูกเป็นความฝันของฉันมาตลอดเช่นกัน และมันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นคือลูกหลานและผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะอยู่ต่อไปอย่างไร ขอแค่ฉันยังไม่ล้มลง ใครก็อย่าหวังว่าจะล้มความตั้งใจนี้ได้ ฉันจะปลูกต้นไม้ต่อไปตราบจนร่างกายจะสู้ไม่ไหว”

ต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่าที่ถูกปลูกลงผืนทราย ก่อเกิดเป็นผืนดินสีเขียวกว้างใหญ่ และเบื้องหลังของต้นไม้นับล้านเหล่านี้ นอกจากหยาดเหงื่อและแรงกายของผู้คนที่เชื่อว่าสักวัน “ลุงโง่จะย้ายภูเขาได้” คือความเสียสละและพลังแห่งรักของผู้เป็นแม่.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA