เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการรับนักเรียนเข้าเรียนต่อระดับม.1 และ ม.4 ว่า ได้แบ่งออกเป็น 3 ช่วงในการรับเด็กนักเรียนดังกล่าว โดยในช่วงวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นการสอบคัดนักเรียนโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ซึ่งในการสอบครั้งนั้น ได้พบปัญหาว่า หากมีเด็กนักเรียนติดโควิด-19 จะจัดการอย่างไร มีสิทธิสอบหรือไม่ หรือหากมาสอบจะมีการบริหารจัดการอย่างไรเพื่อไม่ให้ติด เราจึงได้ทดลองการสอบของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยได้มีการแยกสถานที่สอบ กรณีเด็กที่ติดโควิด-19 ที่จะสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดม ก็จะมาสอบที่โรงเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการจัดสถานที่ไว้ให้ ส่วนกลุ่มเด็กนักเรียนที่ไม่ติดโควิด-19 ก็ยังคงไปสอบที่อิมแพคเมืองทองธานี โดยจะมีการแยกกลุ่มนักเรียนออกจากกันชัดเจน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมถึงมาตรการต่างๆ

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ยังได้เรียนรู้ปัญหาต่างๆ จากการสอบ GAT/PAT เรื่องการทุจริตในการสอบ ซึ่ง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้มีการกำชับในเรื่องนี้เวลาที่จะมีการสอบ ก็คือ ม.1 และ ม.4 ที่จะมีการสอบในวันที่ 26 มีนาคม และวันที่ 27 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งได้มีการกำชับตั้งแต่ขบวนการผลิตและการออกข้อสอบ ว่าจะมีขบวนการอย่างไร ให้มีความรัดกุม และไม่ให้มีการทุจริต ไม่ให้มีข้อสอบรั่วออกมาได้ โดยจะมีมาตรการในการควบคุมเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งทาง สพฐ. ก็ได้มีแนวให้ไปแล้ว

นอกจากนี้ ในส่วนของการบริหารวันสอบ ก็มีตั้งแต่เรื่องการจัดห้องสอบ การจัดแยกเด็กที่จะติดเชื้อหรือไม่ติดเชื่อโควิด-19 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกาธิการ ยังได้เน้นย้ำ เรื่องของการให้เด็กนักเรียนทุกคนได้มีสิทธิ ในการเข้าสอบตัดเลือกในครั้งนี้ เว้นแต่บุคคลที่ไม่สามารถมาที่สนามสอบได้ ที่เป็นเหตุสุดวิสัยรวมไปถึงการคัดกรอง เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่เป็นอิเลกทรอนิกส์ เข้าไปในห้องสอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนการสอบ GAT/PAT ซึ่งในส่วนนี้ได้เน้ย้ำและกำชับไปแล้ว

ทั้งนี้โรงเรียนที่มีการสอบคัดเลือกเข้าเรียน ม.1 และ ม.4 มีทั้งหมด 215 โรง นอกนั้นก็เป็นโรงเรียนที่สามารถรับเด็กได้ตามจำนวน อย่างไรก็ตามในปีนี้แม้เด็กจะมีจำนวนน้อยลง แต่โรงเรียนก็ยังคงเท่าเดิม และยืนยันว่าเด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอน