กรณี 5 โจ๋เมืองบุรีรัมย์ ขี่รถ​ จยย.ปาดหน้ารถกระบะให้หยุด แล้วบังคับคนขับเปิดกระจก​ โดยขู่ว่าถ้าไม่เปิดจะยิง แต่พอเปิดได้ชกปากคนขับแตก คนขับเห็นท่าไม่ดีรีบเร่งเครื่องหลบหนี ก่อนที่ 1 ใน 5 โจ๋ ยิงปืนไล่หลังกระสุนเจาะหน้าผาก น.ส.กฤติญา กระชับกลาง อายุ 19 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ที่นั่งมาบนหลังรถกระบะกับสามีเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดเก่าหนองกี่ ถนนสายหนองกี่-ดอนอะราง ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พื้นที่ สภ.หนองกี่ เมื่อกลางดึกวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

5โจ๋บุรีรัมย์ดุ เรียกกระบะจอด ชกหน้ายิงไล่หลัง แสกหน้าสาว19ดับ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 มี.ค. พ.ต.อ.ยุทธนา ไตรทิพย์ ผกก.สภ.หนองกี่ พร้อม พ.ต.ท.เกษมสันต์ พูนทอง รอง ผกก.(สืบสวน) ควบคุมตัว นายนิวัฒน์ ทุยหล้า อายุ 32 ปี การ์ดร้านอาหารกึ่งผับชื่อ “อาปา” ที่กลุ่มผู้ตายไปรับประทานอาหารก่อนมาประสบเหตุ โดยคุมตัว นายนิวัฒน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังสืบสวนสอบสวนว่าเป็นคนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.กฤติญา เสียชีวิต และตำรวจติดตามจับกุมตัวได้

สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพอ้างว่า เป็นคนลงมือยิงจริง สาเหตุมากจากรถกระบะคันนี้เบิ้ลเครื่องยนต์ใส่แล้วพยายามขับรถเบียดรถ​ จยย.ตน กับรถ​ จยย.เพื่อนอีกคันที่ขี่มาด้วยกัน เลยขี่ไล่ตามเพื่อต้องการถามเจตนา แต่เมื่อคนขับลดกระจกลงได้ชกไปที่ใบหน้า 1 ครั้ง แต่คนขับกลับขับรถหนี แล้วรถมาเบียดรถตนอีก จึงใช้ปืนที่พกมายิงไป 1 นัด แต่ไม่คิดว่าจะไปโดนคนหลังรถเสียชีวิต จากนั้นเอาปืนไปซ่อนที่บ้านเพื่อนแล้วกลับมานอนที่บ้าน กระทั่งตำรวจตามมาจับกุมดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่า นายนิวัฒน์ เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้เพียง 5 เดือน แล้วมาสมัครงานเป็นการ์ดร้านอาหาร กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ​ พ.ร.บ.อาวุธปืน ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นางขวัญจิต ชัยศรี อายุ 54 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่าคนยิงจะกล้ายิงผู้หญิงได้ลงคอ ลูกสาวตนอายุยังน้อย ยังมีอนาคตอีกไกล ตนยังทำใจรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และยืนยันว่าไม่ต้องการให้นำมือปืนมาขอขมาศพลูกสาวตนแต่อย่างใด เพราะจะไม่ให้อภัย 100 เปอร์เซ็นต์