เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 15 มี.ค.นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” เข้าช่วยเหลือเหยื่อและจับกุม น.ส.รัชดา ศรีตะเขต อายุ 42 ปี นายหน้าเสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า18 ปี ภายในสถานบริการ 789บาร์ ซอยสุขุมวิท 7 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

 
สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้รับร้องเรียนจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ Operation under ground railroad หรือ O.U.R. ว่ามีนำเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าบริการเข้าข่ายการค้ามนุษย์​ จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบแน่ชัดว่าร้านแห่งนี้มีพฤติการณ์ต้องสงสัย ก่อนวางแผนล่อซื้อบริการหญิงสาว 3 คน จนความผิดสำเร็จ และเข้าช่วยเหลือเหยื่อ พร้อมจับกุม น.ส.รัชดา ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นแม่เล้า นายหน้า โดยนำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า18 ปี เสนอขายบริการทางเพศให้กับนักเที่ยวที่มาใช้บริการในสถานบริการ ทำหน้าที่เชียร์แขกให้ดื่มเหล้าเบียร์และโฆษณาขายบริการทางเพศกับนักเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย หากลูกค้าถูกใจสามารถจ่ายค่าตัวแล้วพาเด็กออกไปร่วมประเวณีได้ทันที ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้ 3 ราย ประกอบด้วยเด็กหญิงอายุ 15 ปี 2 คน และเด็กหญิงอายุ 14 ปี 1 คน 

ด้าน นายรณรงค์​ เปิดเผยว่า ปฎิบัติการจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการจับกุมความผิดฐานค้าประเวณี แต่เป็นความผิดเกี่ยวเนื่องกับการค้ามนุษย์ เพราะเป็นการค้าประเวณีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในการจัดลำดับความน่าเชื่อถือหรือเทียร์ จึงต้องปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศไทยถูกจัดลำดับเทียร์ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามพบว่าช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา การค้าประเวณีจะใช้วิธีการทางออนไลน์ แต่ปัจจุบันเริ่มกลับมาใช้วิธีการค้าประเวณีผ่านสถานบริการเช่นเดิมแล้ว


เบื้องต้นได้นำตัว น.ส.รัชดา ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดฐานค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี ,จัดให้มีการค้าประเวณี ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และความผิดฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี.