เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุชาติ กนกรัตน์มณี ประธานชมรมตามรอยเจ้าตาก พร้อมพวก และ น.ส.กนกนุช นิยนันท์ ผู้เสียหาย เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีตรวจสอบเส้นทางการเงิน “ช่องส่องผี” เนื่องจากดำเนินการรายการในลักษณะบิดเบือนประวัติศาสนา และทำวัตถุมงคล โดยอ้างว่าจะนำรายได้ดังกล่าวไปร่วมบูรณโบราณสถาน 

นายสุชาติ กล่าวว่า เมื่อเดือน ส.ค. 63 ตนเคยมายื่นดีเอสไอร้องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงินของรายการช่องส่องผีที่มีผู้ดำเนินรายการ 3 คน โดยหนึ่งในนั้นมีพิธีกรผู้หญิงกล่าวอ้างว่า หลังจากตัวเองเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 13 ปีแล้วฟื้นขึ้นมา ทำให้มองเห็นวิญญาณผู้เสียชีวิตได้ โดยการทำรายการของช่องดังกล่าวมักจะไปถ่ายทำตามโบราณสถานต่างๆ มีการทำพิธีสัมผัส พูดคุย สื่อกับดวงวิญญาณของอดีตบูรพกษัตริย์หลายพระองค์ใน รวมถึงพระเจ้าตากนอกจากนี้ ยังมีพาดพิงบุคคลในประวัติศาสตร์ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังทำวัตถุมงคล เชิญชวนให้ผู้ชมรายการบริจาคและเช่าบูชา โดยใช้ความศรัทธาของประชาชนหารายได้มานาน ทั้งนี้ ทราบข้อมูลว่ามีการวิ่งเต้นผู้ใหญ่ จึงมาติดตามคดี เพราะกังวลว่าจะมีการแทรกแซง

นายปเรตร์ อรรถวิภัชน์ ที่ปรึกษาชมรมฯ เผยว่า การทำรายการคล้ายๆ มีแผนธุรกิจ โดยพิธีกรผู้หญิงในรายการมักจะกล่าวอ้างสนทนากับดวงวิญญาณบุคคลสำคัญในสถานที่นั้นๆ นอกจากนี้ มีการเปิดรับบริจาคจากผู้ชมรายการเพื่อสร้างวัตถุมงคล ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ซึ่งทำมากว่า 3 ปีจึงสงสัยถึงความโปร่งใสและอยากให้ดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยร้องทุกข์ ปอท. ให้เอาผิดฐานบิดเบือนข้อมูลประวัติศาสตร์ ทราบว่าส่งเรื่องไปท้องที่ สน.วัดพระยาไกร แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ขณะที่ นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านศาสนา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางชมรมฯ เคยร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พส.) ให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เป็นหน่วยงานที่ไม่มีความสามารถพอ ทำอะไรไม่ได้เลย จึงต้องขอให้ดีเอสไอใช้อำนาจตามกฎหมายตรวจสอบเส้นทางการเงินของรายการดังกล่าว ซึ่งตนไม่ทราบว่าช่องส่องผีมีรายได้จากวิธีการดังกล่าวมากน้อยเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ใช่กระทรวงการคลัง ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบรายรับรายจ่ายของรายการดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่าอดีตผู้ดำเนินรายการทั้งคนกำลังจะไปบวช ทั้งที่ยังมีคดีความ การจะบวชควรทำหลังจากคดีสิ้นสุดลงแล้ว จึงสงสัยว่าเหตุใดช่วงนี้ผู้ที่มีคดีติดตัว ไม่ว่าจะเป็นนายโรเบิร์ต นายปอ หรือตำรวจที่ขับรถชนหมอกระต่ายเสียชีวิตจึงเร่งรีบไปบวชกันนัก

ขณะที่ น.ส.กนกนุช ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเคยศรัทธาพิธีกรสาวในรายการ ถึงขนาดจ้างมาทำพิธีกรรมที่บ้านมีค่าใช้จ่าย 5 หมื่นบาท แต่มีข่าวในทางเสียหายของพิธีกรสาวมาต่อเนื่อง จนเกิดความไม่สบายใจ เลยสอบถามขอให้พิธีกรสาวยืนยันหลักฐานการตายแล้วฟื้นแต่ไม่มีคำตอบ จึงขอเงินคืน 4 หมื่นบาท แต่ทางพิธีกรสาวโอนเงินคืนมา 5 หมื่นบาท

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอรับเรื่องดังกล่าวไว้สืบสวนแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาไม่ได้อยู่ในบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.คดีพิเศษ โดยหลังจากสอบสวนเสร็จจะต้องให้คณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาส่งให้บอร์ดคดีพิเศษพิจารณาอีกครั้งว่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ซึ่งการสอบสวนจะดูรายละเอียดจากหลายมิติทั้งพฤติการณ์ของคดีและข้อมูลทางการเงิน ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าคดีดังกล่าวจะอยู่ในอำนาจของดีเอสไอหรือไม่.