เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ที่นำรุ่นน้องออกไปจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่แล้วเกิดเหตุมีรุ่นน้องเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่า พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง สอบปากคำพยานไปแล้ว 59 ราย สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”

อีกทั้งอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, ร่วมกันในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 และร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 (2) แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และจะเร่งรัดทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีด้วยความรวดเร็ว ตรงไปตรงมา พิสูจน์ทราบทำความจริงให้ปรากฏด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เน้นหลักนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญในการรวบรวมพยานหลักฐานมาประกอบคดี

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขอฝากเตือนไปยังรุ่นพี่สถาบันต่างๆ ที่จะจัดกิจกรรมรับน้อง หรือบังคับรุ่นน้องให้ไปร่วมกิจกรรมโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ละเมิดสิทธิและความเสมอภาค หากมีการกระทำผิด มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย มีประวัติและเสียอนาคตได้ และขอฝากคณะครูอาจารย์ของสถาบันต่างๆ ให้ช่วยลงไปกำกับดูแลการจัดกิจกรรมของนักเรียน นักศึกษา ควรมีมาตรการในการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้การรับน้องแบบละเมิดสิทธิและความเสมอภาคจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก และขอให้นำเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับรุ่นพี่นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ

รวมถึงการจัดกิจกรรมที่ไม่คำนึงความปลอดภัยและไม่เหมาะสม หากจะจัดกิจกรรมรับน้องก็ควรจัดกิจกรรมให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ คำนึงถึงความปลอดภัย ความพร้อมร่างกาย จิตใจของรุ่นน้อง หรือผู้เข้าร่วมแต่ละบุคคลการจัดกิจกรรมจะต้องปรึกษาคณะครู อาจารย์ของสถาบันก่อน อย่าทำไปโดยพลการ ไม่ว่าจะเป็นด้วยความคึกคะนอง หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วเกิดการบาดเจ็บ หรือสูญเสีย ตัวผู้กระทำเองก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เสียประวัติและอนาคต การรับน้องไม่สร้างสรรค์นี้สามารถแจ้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม Call Center 1313 ในวันและเวลาราชการ หรือหากประชาชนต้องการแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง