สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงสงครามภายในประเทศ ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา จากปฏิบัติการทางทหารของกองทัพรัสเซีย ว่าหนทางเดียวที่จะยุติความรุนแรงนี้ได้ คือการที่เขาต้องได้เข้าพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย


ทั้งนี้่ เซเลนสกีส่งสัญญาณประนีประนอมมากขึ้นในระยะหลัง ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับว่า “หมดหวัง” ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) เส้นทางสู่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ( อียู ) “ที่ยังอีกนานมาก” และการประนีประนอมสถานะของคาบสมุทรไครเมีย และอีกสองเขตในภูมิภาคดอนบาสที่อยู่ทางตะวันออก นั่นคือ เขตโดเนตสก์และเขตลูฮันสก์


อย่างไรก็ตาม ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ข้อตกลงใดก็ตามต้องผ่านการลงประชามติจากประชาชนในประเทศด้วย และรัฐบาลเคียฟไม่มีทางยอมรับ “เส้นตาย” หรือ “การยื่นคำขาดใด” จากรัสเซียอีก อนึ่ง เซเลนสกีเดินหน้าเรียกร้องขอพบกับปูตินอย่างต่อเนื่อง มานานเกือบ 1 ปีแล้ว แต่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การขอเข้าพบผู้นำรัสเซียนั้น “ไม่มีประโยชน์ หากอีกฝ่ายไม่ทำการบ้าน” และการคุยกับปูติน “ต้องนำมาซึ่งผลลัพธ์เท่านั้น”.

เครดิตภาพ : REUTERS