สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ว่า จากกรณีเที่ยวบินโดยสาร เอ็มยู 5735 ของสายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ตกกลางหุบเขา ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ เครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ระหว่างเดินทางจากเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งหน้าสู่เมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน พร้อมผู้อยู่บนเครื่อง 132 คน แบ่งเป็นผู้โดยสาร 123 คน และลูกเรือ 9 คนนั้น


ไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ออกแถลงการณ์ แสดงความเสียใจอย่างสูงสุดกับครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือทุกคน ซึ่งต้องประสบกับความสูญเสียใหญ่หลวงจากโศกนาฏกรรมทางอากาศครั้งนี้ โดยไม่มีการระบุจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ

หน้าจอบอกข้อมูลการบิน ที่ท่าอากาศยานานาชาติกว่างโจว ทางตอนใต้ของจีน ซึ่ง “ยังไม่มีสถานะ” ของเที่ยวบินเอ็มยู 5735


ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนจีน (ซีเอเอซี) ออกแถลงการณ์ว่า เที่ยวบินเอ็มยู5735 ขาดการติดต่อระหว่างบินอยู่เหนือเมืองอวี้โจว โดยนักบินไม่ส่งข้อมูลใดมายังหอบังคับการเบื้องล่าง หลังระดับความสูงลดลง 7,925 เมตร ภายในระยะเวลาเพียง 3 นาที และตกในลักษณะทิ้งตัวดิ่งลงมา


ด้านสำนักงานใหญ่ของบริษัทโบอิ้ง ตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสูงสุดไปยังครอบครัวของผู้สูญเสีย จากโศกนาฏกรรมของสายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ในครั้งนี้ และพร้อมให้ความร่วมมือในการสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ เบื้องต้นมีการเปิดเผยว่า เครื่องบินลำที่ประสบเหตุ มีอายุการใช้งานเพียง 6 ปี เท่านั้น


อนึ่ง อุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ของจีนพัฒนาขึ้นอย่างมากในรอบทศวรรษที่ผ่านมา และได้รับการรับประกันความปลอดภัยการบินตามมาตรฐานโลก โดยโศกนาฏกรรมด้านอากาศยานของจีนครั้งใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 เมื่อเครื่องบินโดยสารของไห่หนาน แอร์ไลน์ส ตกในมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 44 ราย จากจำนวนผู้อยู่บนเครื่องบิน 96 คน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES