เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวในรายการโหนกระแส ที่มีหนุ่ม กรรชัย เป็นพิธีกร ถึงกรณีสถานปฏิบัติธรรมพุทธชยันโต โพธิธรรมรังสี หมู่ 7 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี บุกรุกที่ราชพัสดุหรือไม่ว่า ในเรื่องที่ดินอาจจะคลาดเคลื่อนในเรื่องพื้นที่ บริเวณธรรมสถานปฏิบัติธรรม มีเนื้อที่ทั้งหมด 38 ไร่ไม่ใช่ 70 ไร่และเป็นที่ราชพัสดุแน่นอน เพราะเป็นที่อยู่ในเขตหวงห้าม ของทหาร ซึ่งกองบัญชาการกองพลพัฒนา อยู่ในเขต จ.ราชบุรี และแน่นอนเข้าไปใช้โดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะยังไม่ผ่านการขอใช้หรือขอเช่าที่ราชพัสดุ

โดยกรณีนี้ปรากฏว่าในปี 2561 สำนักงานพุทธศาสนาราชบุรี ได้ทำหนังสือถึงกรมธนารักษ์ เพื่อใช้เป็นกิจของวัด โดยจะต้องเป็นวัดก่อน ซึ่งผ่านสำนักพุทธ ทำในนามสำนักพุทธ แต่สภาพตรงนี้ไม่สามารถยกฐานะเป็นวัดได้ เพราะกฎหมายจะต้องห่างจากวัดอื่นในระยะ 5 กิโลกรัม ทำให้สถานปฏิบัติธรรมก็ตั้งเป็นวัดไม่ได้ ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรีก็เลยขอยกเลิกการใช้

แต่เพิ่งจะขอยกเลิกไปเมื่อวันสองวันนี้เอง ซึ่งก็คงหลังจากที่ศรีสุวรรณร้อง และเปลี่ยนจะขอเช่าในนามมูลนิธิ ถามว่า การจะขอเช่าโดยกฎระเบียบของกรมธนารักษ์ ในกรณีนี้เนื่องจากอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการทหาร ดังนั้นถ้าจะให้เช่าจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่ใช้ที่ราชพัสดุก่อน ถึงจะเดินขั้นตอนของกรมธนารักษ์ ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ถ้าจะขอเช่าต้องยื่นไปทางหน่วยงานทหาร ก็ต้องดูกฎระเบียบของกระทรวงกลาโหมด้วยจะให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมหรือไม่ หากได้รับอนุญาตถึงจะมาดำเนินการกับทางกรมธนารักษ์ นั่นคือขั้นตอนการขอเช่า

ทั้งนี้ในสภาพบริเวณที่ดินนั้น มีการบุกรุกมาต่อเนื่องและรอบวัดก็มีการบุกรุกและมีบางส่วนก็มีการเช่าเรียบร้อยแล้วคือ ประชาชนที่บุกรุกทั้งหลายมาดำเนินการเช่ากับกรมธนารักษ์ ประชาชนเหล่านี้ คือผู้บุกรุกเหมือนกันแต่ไม่มีการดำเนินคดีอาญา คือทำสัญญาเมื่อไหร่ก็มีสถานะเมื่อนั้น

กรณีวัดท่าไม้ พอเข้าไปครอบครองยังไม่มีการขอความผิดบังเกิดหรือไม่นั้น ตนขอตอบตามข้อกฎหมายแสดงว่าเข้าไปโดยไม่ชอบ ไม่ถูกต้องและการจะจัดให้เช่าไม่ได้หมายถึงไปลบล้างความผิดที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะคดีอาญา ดังนั้นถ้าจะดำเนินคดีอาญา เช่าแล้วไม่มีการดำเนินคดีอาญาหรือไม่ คดีอาญายังมีอยู่

และกรณีแบบนี้ไม่มีคำว่าค่าเช่าย้อนหลัง แต่ถ้าข้อเท็จริงครอบครองโดยไม่ชอบแต่ต้น และขณะนี้จะทำถ้าเช่ากับกรมธนารักษ์ ต้องชดใช้ค่าเสียหายในจำนวนเท่ากับที่อาจจะให้เช่าได้แต่ไม่ใช่เสียค่าเช่าย้อนหลัง มีผลตั้งแต่ลงนามในสัญญา

ส่วนที่ถามว่า กรมธนารักษ์ไม่เคยย้อนไปตรวจสอบเหรอ จนกระทั่งเกิดกรณีปอ-โรเบิร์ต เกิดขึ้น เหมือนกับล้อมคอก อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญ ขอเรียนว่าที่ดินที่เป็นที่ราชพัสดุ ถ้าส่งมอบให้ส่วนราชการใดดูแล ตามกฎหมายส่วนราชการนั้นต้องดูแลรักษาและป้องกันบุกรุกด้วยแต่กรมธนารักษ์ คือผู้ดูแลในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์ คือกระทรวงการคลัง และต้องดูแลร่วมกัน และหน่วยงานที่ครอบครองดูแลที่ใช้ดูแลนั้นอยู่ ซึ่งมันคือหน้าที่ร่วมกัน

กรณีนี้ตนทราบข้อมูลจากผู้บัญชาการเมื่อวันที่ 22 มี.ค.65 ว่าตั้งแต่ปี 2551 ผู้บัญชาการและผู้ใต้บังคับก็เข้าไปดู และได้รับแจ้งจากสถานปฏิบัติธรรมว่า จะยกสถานะเป็นวัดแต่ โดยวิสัยชาวพุทธก็มีการผ่อนผันกันมา ปัจจุบันนี้ยกสถานะเป็นวัดไม่ได้แล้ว ดังนั้นถ้าจะมาขอเช่าโดยมูลนิธิอันนั้นเป็นเรื่องที่หน่วยทหารและกรมธนารักษ์จะมาหาข้อยุติร่วมกันว่าให้เช่าได้หรือไม่