จากกรณีที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่สั่งอาหารผ่าน GrabFood ซึ่งได้โอนเงินค่าบริการเกินจํานวนไป ให้พาร์ทเนอร์คนขับนั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงในข้อเท็จจริงประเด็นต่างๆ ดังนี้  บริษัทฯ ได้รับทราบถึงกรณีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2564 และไม่ได้นิ่งนอนใจโดยเจ้าหน้าที่ ฝ่ายบริการลูกค้าได้ทําการติดต่อผู้ใช้บริการในทันทีเพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พยายามติดต่อพาร์ทเนอร์คนขับซึ่งถูกอ้างถึงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยในระหว่างที่มีการตรวจสอบและติดตามผล บริษัทฯ ได้ทําการระงับสัญญาณการให้บริการของพาร์ทเนอร์คนขับรายดังกล่าวเป็นการชั่วคราว จากการติดตามและประสานงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด (วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.18 น.) พาร์ทเนอร์คนขับรายดังกล่าวได้ทําการโอนเงินส่วนเกินเพื่อคืนให้กับผู้ใช้บริการแล้ว โดยได้ส่งสลิปการโอนเงินผ่านทางธนาคารให้กับบริษัทฯ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยืน ซึ่ งผู้ใช้บริการได้รับเงินจํานวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตํารวจสามารถพิสูจน์และระบุว่าการกระทําดังกล่าวเป็นการกระทําที่ผิดกฎหมาย หรือเข้าข่ายการก่ออาชญากรรม บริษัทฯ จะดําเนินการระงับสัญญาณการให้บริการกับพาร์ทเนอร์คนขับเป็นการถาวร ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นสูงสุด ทั้งนี้บริษัทฯ ขอยืนยันว่า แกร็บให้ความสําคัญกับการดําเนินธุรกิจโดยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยได้ส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับปฏิบัติตาม “จรรยาบรรณของพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ” ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อรักษามาตรฐานที่ดีและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทุกคน