สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า กระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ว่า กลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเยเมน ระดมยิงขีปนาวุธและจรวด โจมตีโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซาอุดีอารามโก ในเมืองเจดดาห์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ และตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลแดง เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่คลังเก็บน้ำมันสองแห่ง

กลุ่มควันหนาทึบปกคลุมโรงกลั่นของซาอุดีอารามโก ในเมืองเจดดาห์ ทางตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผลจากการถล่มด้วยจรวดของกลุ่มฮูตี


ทั้งนี้ รัฐบาลริยาดยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลานานหลายชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเคราะห์ดีไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมทั้งประณามอิหร่านซึ่งยังคงเดินหน้าให้ความสนับสนุนด้านอาวุธ แก่กองกำลังฮูตี และการโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดศักยภาพการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย


ขณะที่ซาอุดีอารามโกยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียว หลังกลุ่มกบฏฮูตีระดมยิงขีปนาวุธและโดรนพุ่งตรงมายังซาอุดีอาระเบีย พุ่งเป้าโจมตีโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) โรงกลั่นน้ำทะเล โรงกลั่นน้ำมัน และโรงไฟฟ้า ของซาอุดีอารามโก โดยเป้าหมายทุกแห่งตั้งกระจายอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลแดง


ด้านกบฏฮูตียังคงยืนกรานปฏิเสธคำเชิญของคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย ในการเข้าร่วมการเจรจาแบบพบหน้ากัน เพื่อหาทางคลี่คลายสงครามกลางเมืองในเยเมน ซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว โดยให้เหตุผลว่า พร้อมเจรจา แต่การพบหารือต้องเกิดขึ้นบนแผ่นดินของ “ประเทศที่เป็นกลางเท่านั้น” และกองกำลังผสมอาหรับซึ่งมีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำ ต้องยุติมาตรการปิดล้อมพื้นที่ทุกแห่งในเยเมน ที่อยู่ภายใต้การยึดกครองของกบฏฮูตี รวมถึงกรุงซานา.

เครดิตภาพ : REUTERS