เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงความคืบหน้าจากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Ginhom Nakab” ได้โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถ ซึ่งปรากฏภาพเหตุการณ์ขณะที่หญิงตั้งครรภ์คนหนึ่ง กำลังเดินข้ามทางม้าลาย หน้า รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในช่วงเช้ามืดเวลา 06.45 น. ของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นจังหวะที่รถยนต์เจ้าของคลิปกำลังจอดติดสัญญาณไฟแดงคนข้ามทางม้าลาย แต่ปรากฏว่าได้มีรถกระบะคันหนึ่งได้ขับรูดเลนกลางมาโดยไม่มีการชะลอ เกือบชนหญิงตั้งครรภ์คนดังกล่าวที่กำลังเดินข้ามทางม้าลาย ก่อนที่รถกระบะคันดังกล่าวจะขับฝ่าสัญญาณไฟแดงทางม้าลายไป โดยไม่ได้มีการลงมาดูแต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.45 น. บริเวณทางข้ามทางม้าลาย หน้าประตู 8 รพ.จุฬาลงกรณ์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจากกล้องวงจรปิดของสํานักงานตำรวจแห่งชาติ (โครงการ Smart Safety Zone) ประกอบกับกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานเอกชน ตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุขับขี่ จนทราบว่ารถยนต์ที่ก่อเหตุ เป็นรถยนต์อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 1 ฒญ 5772 กรุงเทพมหานคร ต่อมาจึงทราบว่าในวันเกิดเหตุ ผู้ขับขี่คือ นายวีรยุทธ จำปาราช จึงได้ติดตามให้นายวีรยุทธ เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ในวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาติดตามเรื่องของการดำเนินคดี จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวและได้นำตัวผู้กระทำความผิด และรถคันก่อเหตุมาดำเนินคดีแล้ว คือ นายวีรยุทธ ซึ่งได้ยอมรับว่าเป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวจริง โดยขับมาจาก อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อส่งอาหารสดให้กับโรงเรียนย่านสาทร ถนนศาลาแดง และกำลังมุ่งหน้าไปโรงเรียนบริเวณ ถนนสามเสนซอย 11 เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นายวีรยุทธได้ก้มดูเส้นทางตามจีพีเอสจากโทรศัพท์มือถือ จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทางข้ามทางม้าลาย และมีสัญญาณไฟจราจรสีแดง ประกอบกับไม่ชำนาญเส้นทาง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของรถยนต์คันที่ก่อเหตุ พบว่า มีสถานะปกติ แต่ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของนายวีรยุทธ ได้หมดอายุลงตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. 59 เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีกับนายวีรยุทธทั้งหมด 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ไม่หยุดรถให้คนข้ามถนนบริเวณทางข้าม 2.ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร 3.ขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ขับรถ และ4.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งในข้อหาที่ 1-3 เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับข้อกล่าวหาละ 1,000 บาท รวมเป็น 3,000 บาท ส่วนในข้อหาที่ 4 เจ้าหน้าที่จะดำเนินการร้องต่อศาลแขวงปทุมวันและจะส่งฟ้องภายในวันนี้

พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังเปิดเผยอีกว่า กรณีนี้สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้นึกถึงกรณีการเสียชีวิตของคุณหมอกระต่าย เมื่อครั้งเกิดเหตุบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จึงขอฝากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ขอให้ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร สัญญาณไฟจราจร เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติบนท้องถนนที่จะเกิดขึ้น

ส่วนการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีการเปิดรับสมัครในวันที่ 31 มี.ค. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง นั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า ได้มอบหมายให้ สน.ดินแดง วางแผนจัดระบบการจราจร รวมถึงประชาสัมพันธ์เส้นทาง และบริการจุดจอดรถเพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนพื้นที่รอบนอก ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านการข่าวในการหาเสียงของผู้ลงสมัคร เพื่อจัดระเบียบไม่ให้กระทบกับการเดินทางของประชาชน

สำหรับป้ายหาเสียงของผู้ลงสมัคร พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะอยู่ในความดูแลของสำนักเทศกิจ โดยบช.น. ได้ให้ทุกสถานีตำรวจนครบาลทำการตรวจสอบป้ายหาเสียงที่บดบังทัศนียภาพ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ส่วนแนวทางการรับมือสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่ากทมฯ พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำมาว่าให้เตรียมความพร้อมเรื่องการข่าว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ส่วนในขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงที่ส่อจะเกิดอันตรายต่อผู้สมัครแต่อย่างใด แต่หลังจากมีการรับสมัครแล้ว ก็จะมีการติดตามการข่าวเพื่อเตรียมรับมือเชิงรุก อีกทั้ง ผบช.น.ได้กำชับให้กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) ทำการเตรียมความพร้อมสำหรับกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน ให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที และให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) ประสานร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย.