สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่า พนักงานหญิงของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุชื่อเพียงว่า ‘เสี่ยวอวี่’ โดนไล่ออกจากงานเมื่อเดือน มิ.ย. 2562 โดยผู้จัดการของบริษัทเดิมของเธออ้างว่า เธอทำผิดกฎบริษัทด้วยการเผลอหลับถึง 4 ครั้ง ระหว่างการทำงานกะกลางคืน
ศาลประชาชนระดับกลางของเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นศาลที่รับฟ้องคดีของ เสี่ยวอวี่ ไม่ได้เปิดเผยชื่อของบริษัทดังกล่าว
เสี่ยวอวี่ เคยทำงานที่บริษัทเดิมของเธอเป็นเวลานานถึง 7 ปี ซึ่งทางบริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินชดเชยใด ๆ ให้เธอ หลังจากที่สั่งให้เธอออกจากงาน เธอจึงตัดสินใจยื่นฟ้องร้องต่อศาลประชาชน
ในเดือน เม.ย. 2562 บริษัทเดิมของ เสี่ยวอวี่ ได้สั่งย้ายให้เธอไปทำงานกะกลางคืน โดยเธอมีหน้าที่เก็บค่าธรรมเนียมของการใช้ลานจอดรถ บริษัทระบุว่าในช่วงเวลา 4 วันของการทำงานของเธอในเดือน มิ.ย. 2562 เสี่ยวอวี่ เผลอหลับเป็นเวลา 6, 8, 28 และ 6 นาทีตามลำดับ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาระหว่าง 04.00-05.00 น.
เสี่ยวอวี่ อ้างว่า บริษัทไม่ได้ถามความเห็นของเธอเกี่ยวกับการโยกย้ายให้ไปทำงานกะกลางคืน และไม่ได้สอบถามถึงสภาพร่างกายของเธอด้วย ต่อมา เธอก็ตัดสินใจยื่นคำร้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการ ซึ่งตัดสินให้บริษัทจ่ายเงินชดเชยให้เธอจำนวน 540 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18,000 บาท) แต่บริษัทไม่ยอมรับคำตัดสิน และยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลประชาชนเขตเซียงโจว ซึ่งพิพากษายืนตามคำตัดสินเดิม
บริษัทดังกล่าวจึงยื่นอุทธรณ์อีกครั้งไปยังศาลประชาชนระดับกลาง ซึ่งตัดสินว่าบริษัทไล่พนักงานหญิงคนดังกล่าวออกโดยไม่มีเหตุผลอันควร เนื่องจากเธองีบหลับในเวลาที่มีรถยนต์เข้าออกจากลานจอดรถเป็นจำนวนไม่กี่คัน ศาลยังระบุว่า การงีบหลับของ เสี่ยวอวี่ ซึ่งเพิ่งจะตั้งครรภ์ในเวลานั้น ถือว่าเป็นพฤติกรรมตามปกติของหญิงมีครรภ์ และต้องจ่ายเงินชดเชยให้เธอเป็นจำนวน 7,560 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 253,360 บาท)
การฟ้องร้องเกี่ยวกับการจ้างงานของหญิงมีครรภ์ในจีน เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว ในปี 2561 คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในหนานจิง ไล่พนักงานหญิงคนหนึ่งออก เพราะเธอปฏิเสธที่จะทำงานในตำแหน่งพยาบาล เนื่องจากแต่เดิมเธอได้รับการว่าจ้างมาเป็นแพทย์ประจำคลินิก ต่อมา บริษัทเปลี่ยนตำแหน่งของเธอหลังจากที่เธอคลอดลูก เพราะผู้บริหารคิดว่าเธอ ‘อาจลางานมากกว่าเดิม’
แพทย์หญิงยื่นฟ้องต่อศาลแรงงานและชนะคดี คลินิกดังกล่าวต้องจ่ายชดเชยให้เธอเป็นเงินจำนวน 9430 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 316,000 บาท
แหล่งข่าว : scmp.com
เครดิตภาพ : Pixabay/fezalic