จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ 15 คน อ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ บุกอุ้มค้นตัวผู้เสียหายและครอบครัว ขู่รีดเงิน 4 แสนบาทและพระ 1 องค์  หลังผู้เสียหายเล่นพนันจากเว็บพนันออนไลน์ แล้วได้เงินเกือบ 2 ล้านบาท ล่าสุด พ.ต.ต.คม สารวัตรสังกัด บช.สอท. หนึ่งในผู้ต้องหา  ได้เดินทาง เข้ามอบตัวที่ สน.บางนา แล้ว ภายหลังนำตัวฝากขัง ศาลไม่ให้ประกันตัวนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 2 เม.ย. ภายหลังจากที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมพยานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ สน.บางนา เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงเดินทางลงมาจากชั้นบนของโรงพัก ก่อนที่พยานจะเดินทางกลับทันทีเพื่อความปลอดภัย

จากนั้น นายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมแม่ของผู้เสียหายทั้งสองคน เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนและมาชี้รูปผู้ต้องสงสัย ว่ามีใครกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยตำรวจได้สอบถามตนในประเด็นที่ สองสามีภรรยา ผู้เสียหายเข้ามาหาและพูดคุยเล่าเหตุการณ์อย่างไรบ้าง และประสานให้ผู้เสียหายทั้งคู่มาให้การเพิ่มเติม พร้อมชี้รูป ในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งทั้งสองคนกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ แต่วันนี้ทราบแล้วว่าเป็นตำรวจจริง 2 คน ส่วนอีก 2 คนไม่ได้มาด้วย แต่ถูกใส่ชื่อเข้าไปในบันทึกจับกุม ส่วนที่เหลือเป็นพลเรือน

นายษิทรา เปิดเผยต่อว่า สำหรับผู้เสียหายทั้งสองคนขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ แม้แต่มารดาก็ยังติดต่อไม่ได้ มีเพียงเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หนึ่งในผู้เสียหายได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาแต่ไม่ได้รับสาย ก่อนจะโทรกลับไปซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้รับสายเช่นกันแต่เมื่อติดต่อไปทางมารดาก็ได้มีการพูดคุย และเชิญมาให้ปากคำพร้อมชี้รูปเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ซึ่งผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ส่วนผู้เสียหายเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องกลัว

นายษิทรา เปิดเผยอีกว่า ภายหลังจากการชี้รูปทางพยาน มองเห็นไม่ชัด ไม่สามารถยืนยันได้ว่า พ.ต.ต.คม ไปตรวจค้นด้วยหรือไม่ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญแต่อย่างใด เพราะ พ.ต.ต.คม ได้รับสารภาพแล้วว่า เป็นคนจัดทำบันทึกและไปที่เกิดเหตุจริง เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในทางกฎหมายก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล ส่วนกรณีที่แม่ให้เงินไปกับใครนั้น ขอให้อยู่ในสำนวนการสอบสวนก่อนไม่สามารถเปิดเผยได้ ว่า ในส่วนของคดีไม่มีความกังวลแต่อย่างใด จากการพูดคุยกับ ผกก.สน.บางนา และทีมพนักงานสอบสวน ทราบว่าได้ออกหมายจับเพิ่มเติมแล้ว คาดว่าจะจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ครบทุกคน มั่นใจการทำงานของตำรวจเนื่องจาก รอง ผบ.ตร.ลงมาดูคดีนี้ด้วยตัวเอง และหลังจากที่ได้โพสต์เรื่องนี้ลงโซเชียล ตำรวจใช้เวลาเพียง 2 วันตำรวจก็รู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว ซึ่งเป็นการทำงานที่รวดเร็วต้องขอชื่นชม

นายษิทรา เปิดเผยด้วยว่า สำหรับ พ.ต.ต.คมนั้น ส่วนตัวคาดว่าไม่ใช่ตัวการใหญ่ เป็นเพียงแค่มือไม้ที่ลงมาทำเท่านั้น ส่วนตัวการใหญ่คาดว่าจะเป็นเจ้าของเว็บพนันนั่นเอง และคาดว่ามีผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่เช่นนั้นไม่มากระทำลักษณะนี้ และยืนยันว่าไม่รู้จัก พ.ต.ต.คมเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด และทราบว่าก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.คม ก็มีประวัติข่มขู่วินรถตู้ ที่ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อปี 2556 มาแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ผู้เสียหายก็รู้สึกกังวลเรื่องการใช้ชีวิตมาจะดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งได้มีการพูดคุยเรื่องให้เจ้าหน้าที่เข้าคุ้มครองเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เสียหายด้วยว่าจะไว้ใจเจ้าหน้าที่หรือไม่ ส่วนเงินที่ได้มาจากการเล่นพนันที่เหลืออยู่นั้น ตามขั้นตอนเงินที่ได้มาจากการพนันนั้นเมื่อจ่ายไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องคืนและหากดำเนินคดีเรื่องเกี่ยวกับการพนัน ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยอมรับว่าเล่นจริง และหากถูกตำรวจแจ้งข้อหาก็พร้อมขึ้นศาลเพื่อรับการไต่สวนเสียค่าปรับเท่านั้น