สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ประณามรัสเซีย “ก่ออาชญากรรมสงคราม” ด้วยการสังหารหมู่ประชาชน ในเมืองใหญ่หลายแห่งของประเทศ รวมถึงเมืองบูชา ซึ่งมีการพบศพมากกว่า 400 ศพ หลังรัสเซียถอนทหารออกไปจากพื้นที่ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว


ขณะเดียวกัน ผู้นำยูเครนวิจารณ์ “ศักยภาพ” ของยูเอ็นเอสซี ซึ่ง “ไม่สามารถทำอะไรได้” นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะรัฐบาลมอสโกเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี


ด้านนายจาง จวิน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่ง “มีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง” ต่อภาพการเสียชีวิตของพลเรือนจำนวนมากในเมืองบูชา และเรียกร้อง “การสอบสวนและการตรวจสอบความจริงอย่างเป็นทางการ” เช่นเดียวกับอินเดีย ซึ่งประณามเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนในเมืองบูชา แต่ไม่เจาะจงกล่าวหาฝ่ายใด และเรียกร้องการสอบสวนเช่นกัน


ทั้งนี้ จีนและอินเดียเป็นสองประเทศที่ไม่ประณามรัสเซีย และงดออกเสียงทุกครั้งต่อมติทั้งของยูเอ็นเอสซี และสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ)


ขณะที่นายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ยืนกรานว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียไม่เคยมีเป้าหมายโจมตีพลเรือน จึงเป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดกองทัพรัสเซียจึงไม่สามารถรุกคืบพื้นที่บางแห่งได้มากและรวดเร็วตามที่วางแผนไว้


ส่วนนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวที่กรุงมอสโก ว่าเหตุการณ์ที่เมืองบูชา “เป็นการจัดฉาก” เพื่อทำลายรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายจากดาวเทียมสอดแนมของมาซาร์ เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นบริษัทของสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า มีศพอยู่บนท้องถนนในเมืองบูชา “อย่างน้อยตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.” ก่อนที่กองทัพรัสเซียถอนทหารออกจากเมืองแห่งนี้ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES