เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้รับร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นางสาวเอ นามสมมุติ อายุ 37 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุพลัดตกรถเมล์ ขสมก. สาย 7 ก. หมายเลขทะเบียน 11-9572 เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทาง ขสมก. แต่อย่างใด แม้จะมีการนัดไปเจรจาตกลงกันที่ สน.พระราชวัง มาแล้วหลายครั้ง น.ส.เอ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุขณะตนกำลังขึ้นรถเมล์คันดังกล่าวที่บริเวณปากคลองตลาด แต่คนขับทราบชื่อภายหลังว่า นายบี ได้ขับรถออกทันที ทำให้ตนพลัดตกลงมากองบนพื้นถนนใกล้กับล้อรถด้านซ้าย ล้อรถจะเหยียบศีรษะ แต่โชคดีพลิกตัวทัน ฟุบมึนๆ งงๆ อยู่ 2-3 นาที จนทำให้แม่ค้าผลไม้ที่อยู่บริเวณป้ายรถเมล์เห็นเหตุการณ์ รีบร้องตะโกนเสียงดังบอกคนบนรถเมล์ให้ลงมาดู


นางสาวเอ กล่าวต่อว่า พนักงานเก็บค่าโดยสาร ลงมาดูแค่สอบถามอาการสั้นๆ และไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ ไม่สอบถามว่าจะไปให้ไปส่งที่ใดเพื่อรักษาตัวหรือพบแพทย์หรือไม่ ที่สำคัญไม่ให้ข้อมูลติดต่อกลับอะไรเลย ทั้งที่ตนได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกบริเวณแขนและขาซ้าย หลังเกิดเหตุเริ่มมีอาการชาขึ้นเรื่อยๆ จึงโทรศัพท์ปรึกษาเพื่อนแนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พระราชวัง นอกจากนี้ยังได้ร้องเรียนไปที่ ขสมก.หมายเลข 1348 ด้วยตัวเองอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้แนะนำการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ จึงตัดสินใจติดต่อไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีและแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อบันทึกเป็นข้อมูล จากนั้นทำให้มีการนัดเจรจากันหลายครั้ง

จนกระทั่งวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้นัดไปพบกันอีกครั้งที่ สน.พระราชวัง เพื่อตกลงเรื่องค่าสินไหมและค่ารักษาตัวรวมถึงค่าทำขวัญ มีเอกสารใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่า ไม่สามารถประเมินวันรักษาหรือระยะการรักษาได้และไม่พบบาดแผลภายนอก แต่ไม่ได้ระบุถึงอาการและความผิดปกติในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประกันภัย ระบุว่าเคสแบบนี้เบื้องต้นจะจ่ายอยู่ที่ 300-500 บาท แต่ถ้าเป็นตัวเลขสูงต้องกลับไปปรึกษาทางบริษัทฯ นอกจากนี้คู่กรณีที่มาด้วยก็ยังแสดงท่าทางแปลกๆ โดยก่อนหน้าเจ้าหน้าที่พยายามสอบถามว่าพักอาศัยอยู่ที่ไหน จึงทำให้ตนเริ่มหวั่นเรื่องความปลอดภัย ตัดสินใจมาร้องทุกข์สื่อให้ช่วยอีกทางหนึ่ง