กรณีคนร้ายบุกยิงคู่อริภายในห้องฉุกเฉิน รพ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เป็นเหตุให้ นายสุรชัย สุนันทนาม อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 8 ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เสียชีวิตคาห้องฉุกเฉินดังกล่าว กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 9 เม.ย. 65 ตำรวจสามารถตามจับ นายบุญญฤทธิ์ หรือบิว พลขันธ์ อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุได้ทันควัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ยิงสนั่น รพ.! วัยรุ่นทะเลาะเดือด ไม่หนำใจบุกยิงอริซ้ำดับคาห้องฉุกเฉิน
รวบแล้ว’ไอ้บิว’ คนร้ายยิงอริดับคาห้องไอซียู ถูกจับที่รพ.กาฬสินธุ์

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ และ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.ปากคาด ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายบุญญฤทธิ์ ผู้ต้องหา ซึ่งให้การว่า ได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้ตายที่ร้านอาหารสถานีปากคาด โดยพวกตนไปเที่ยวด้วยกัน 10 คน ถูกกลุ่มคู่อริ 3 คน ทำร้ายบาดเจ็บ ด้วยความโกรธแค้นที่ตัวเองถูกกลุ่มผู้ตายใช้ขวดปากฉลามทำร้ายแทงตามตัวหลายแผล หลังเกิดเหตุที่ร้านเหล้า ตนได้รับบาดเจ็บกลับไปที่บ้าน เพื่อเอาปืนที่ฝังไว้พกติดตัว และให้ นายประวิทย์ หรือทัช ขันติวงษ์ อายุ 26 ปี และกลุ่มเพื่อนพาไปทำแผลที่ รพ.ปากคาด เช่นกัน แต่เห็นคู่กรณีและจำหน้าได้นอนรอรักษาอยู่ ด้วยความเมาและโกรธแค้น จึงเอาปืนที่ตัวเองพกมาด้วยออกมายิงจนเสียชีวิต โดยไม่เคยรู้จักกับคู่อริมาก่อน และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน ที่ทำลงไปเพราะความโกรธแค้น

หลังก่อเหตุได้กลับไปที่บ้าน เอาปืนให้ นายทัช นำไปทิ้ง และให้ นายชลิต เพื่อนรุ่นน้องให้พาหลบหนี เนื่องจากตัวเองบาดเจ็บไม่สามารถขับรถได้ โดยออกเดินทางจากบ้านประมาณตี 2 ซึ่งแผลที่ได้รับบาดเจ็บตนเอาผ้าพันแผลไว้และเอาเทปดำพันอีกรอบ จากนั้นแวะเติมน้ำมันไปเรื่อย จนถึง อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อไปถึง ตนเกิดอาการวูบ ญาติได้พาไปหาหมอที่ รพ.หนองกุงศรี และถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.กาฬสินธุ์ กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

ขณะที่บ้านผู้เสียชีวิต อาสามูลนิธิสว่างศรีวิไลฯ ได้นำร่างพร้อมหีบศพผู้เสียชีวิต คือ นายสุรชัย เคลื่อนศพไปวัดเปงจานเหนือ ต.พลแพง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ประกอบพิธีฌาปนกิจ เมื่อเวลา 14.30 น. โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

โดย นางบาง สุนันทนาม อายุ 63 ปี มารดาผู้ตาย ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับคนยิงลูกชายตนได้รวดเร็ว.