เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ในช่วงเย็น ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล นายกรุณพล เทียนสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่ พร้อมด้วยนายณัฏฐ์  อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้สมัคร ส.ก.เขตปทุมวัน พรรคก้าวไกลเดิน ร่วมลงพื้นที่เพื่อศึกษาตัวอย่างสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียว โดยมีผู้ที่มาพักผ่อนในอุทยานฯ เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายวิโรจน์ในมุมมองของ กทม. เมืองที่คนเท่ากัน  

โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่จะสามารถทำให้กรุงเทพเป็นเมืองที่คนเท่ากันได้คือ การมีพื้นที่สาธารณะให้แก่พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์ได้จริง แน่นอนว่าอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือตัวอย่างพื้นที่สาธารณะที่วาดฝันอยากให้มีทั่ว กทม. 

“นี่คือตัวอย่างสวนสาธารณะที่ดีที่เราอยากเห็น สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้ามาใช้งาน มากกว่าเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว” นายวิโรจน์ กล่าว  

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เราอยากเห็นพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนสาธารณะที่ประชาชนใช้งานได้จริง มากกว่าเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อความสวยงามแต่ประชาชนไม่สามารถใช้งานได้ พื้นที่สีเขียวใน กทม. ทุกวันนี้จำนวนมากประชาชนไม่สามารถเข้าถึงและใช้งานได้จริง ต้นไม้ที่อยู่เกาะกลางถนน หรือต้นไม้ที่แปะไว้บนตอม่อบีทีเอสก็ถูกนับรวมเป็นพื้นที่สีเขียว ส่วนพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนสาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้งานได้จริงนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และส่วนมากก็กระจุกอยู่ในตัวเมืองมากกว่าที่จะกระจายออกไปรองรับประชาชนในพื้นที่รอบๆ 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เราจะหาพื้นที่สร้างสวนสาธารณะที่มีขนาดเท่านี้ เพราะที่นี่มีขนาดกว่า 28 ไร่ เราสามารถสร้างให้เล็กกว่านี้สักหน่อย แต่ต้องอยู่บนฐานคิดที่ว่าต้องเป็นสวนสาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้งานได้จริง มากกว่าสร้างไว้เพื่อสร้างภาพว่าเรามีพื้นที่สีเขียวต่อประชากรที่ไม่น้อยหน้าเมืองไหนแต่ประชาชนใช้งานไม่ได้ 

“นโยบายด้านพื้นที่สาธารณะของเราชัดเจน เราจะผลักดันให้มีการใช้กลไกภาษีที่ดิน ที่เรียกว่า Negative Land Tax เพื่อลดภาษีที่ดินให้เอกชน โดยแลกกับให้เอกชนยอมให้ กทม. นำพื้นที่รกร้างมาพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ ผมคิดว่าสวนดีๆ แบบนี้ ไม่ควรมีที่จุฬาฯที่เดียว แต่ควรกระจายไปทั่ว กทม. ถ้าเราผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์บนที่ดินอย่างเต็มประสิทธิภาพได้ ผมคิดว่าไม่ใช่แค่คน กทม.จะมีปอดในเมืองเพิ่มขึ้น แต่ยังเพิ่มพื้นที่ค้าขายและการจ้างงานประชาชนทั่วทุกเขตใน กทม.” นายวิโรจน์ กล่าว