เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวว่า เทศกาล “สงกรานต์ 2565” นับเป็นเทศกาลที่สืบสานวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทย แต่จากสถานการณ์ที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนการจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ นั้นยังมีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้มีมติอนุญาตให้พื้นที่ที่มีการควบคุมสามารถจัดงานสงกรานต์ได้ แต่เป็นการจัดงานเพื่อวัตถุประสงค์สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ในหลายจังหวัดได้มีรายละเอียดของ “มาตรการป้องกันโควิด-19” ที่ต่างกับพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการแบ่งกลุ่มจังหวัดตามสถานะพื้นที่ควบคุมโควิด-19

ห้ามการเล่นน้ำ เล่นประแป้ง ปาร์ตี้โฟม หรือกิจกรรมใดๆ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมพื้นที่สาธารณะในข้อนี้ ไม่รวมถึงพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมตามประกาศนี้ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะให้จัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ได้ เช่น การจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่หมู่บ้านหรือชุมชน สามารถดำเนินการได้ รวมถึงห้ามการจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม พร้อมทั้งให้มีจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าออกและให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรม และให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัดตามขนาดของสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรมเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม 2 คน โดยให้เข้าร่วมได้เฉพาะผู้ที่แสดงหลักฐานว่าบุคคลนั้นได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด

โดยผู้ที่ประสงค์จะจัดกิจกรรมต้องขออนุญาตต่อฝ่ายปกครองของแต่ละจังหวัด หรือสำนักงานเขตพื้นที่ และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครแล้วแต่กรณี และดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่กำหนดไว้ในประกาศตามที่ทางราชการกำหนด ยกเว้นการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัวสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ ศบค.กำหนด สถานที่หรือการจัดกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินมาตรการความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะด้วย เป็นต้น

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.