สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถึงการที่หลายประเทศในยุโรปกำลังพยายามอย่างหนัก ในการหาแหล่งพลังงานเพื่อทดแทนการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ว่าท้ายที่สุด “กลุ่มประเทศไม่เป็นมิตร” ยอมรับว่า ไม่สามารถตัดขาดจากการใช้พลังงานที่รัสเซียส่งให้ได้

ปูตินกล่าวต่อไปว่า เนื่องจากจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีประเทศใดในยุโรป สามารถจัดหาแหล่งพลังงานทดแทนที่สมเหตุสมผลให้กับตัวเอง และประเทศร่วมภูมิภาคได้ พร้อมทั้งเตือนว่า การดำเนินการเช่นนี้ต่อไป มีแต่จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นเท่านั้น


ทั้งนี้ รัฐบาลมอสโกอยู่ระหว่างเปลี่ยนแปลงเส้นทางส่งออกพลังงาน “ให้ไปยังตะวันออกมากขึ้น” หมายถึงทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่อันดับต้นของโลก


ขณะเดียวกัน ปูตินตำหนิการที่รัฐบาลและสถาบันการเงินของประเทศในยุโรป ยังคงไม่สามารถจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิลได้ โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา หาก “ประเทศและดินแดนที่ไม่เป็นมิตร” ซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่ในยุโรป ยังคงประสงค์ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ต้องเปิดบัญชีกับธนาคารของรัสเซีย เพื่อการทำธุรกรรมเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น มิเช่นนั้น รัสเซียถือว่า “เป็นความล้มเหลวของลูกค้า” และผู้ผลิตของรัสเซีย “จะหยุดส่งก๊าซให้แก่ลูกค้ารายนั้น”


อย่างไรก็ดี ธนาคารก๊าซพรอมเป็นสถาบันการเงินแห่งเดียวของรัสเซีย ณ เวลานี้ ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดช่องทางรับชำระค่าก๊าซธรรมชาติที่เป็นทั้งสกุลเงินรูเบิล และดอลลาร์สหรัฐ หรือยูโร แล้วหลังจากนั้น ธนาคารก๊าซพรอมจะเป็นผู้คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเหล่านั้นเป็นเงินรูเบิลต่อไป


ด้านแหล่งข่าวระดับสูงในคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าการจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติให้แก่รัสเซียเป็นเงินรูเบิล ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร ที่มีต่อรัฐบาลมอสโก.

เครดิตภาพ : REUTERS