เรียกได้ว่าทำเอาทนายความคนดัง ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ต้องออกมาร่ายยาวจนกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลังจากทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้มีการพูดถึง “คดีมังกรฟ้า” ผ่านการไลฟ์สดที่ทนายอนันต์ชัยเป็นผู้ดูแล จนเจ้าตัวจนต้องออกมาตอบโต้อย่างดุเดือดผ่านทางเฟซบุ๊กระบุว่า

“ทนายอนันต์ชัย ถามทนายเดชา คุณมีปัญหาอะไรกับผม? โดยปกติแล้ว ผมจะไม่ชอบยุ่งเกี่ยว ก้าวก่าย วิพากษ์วิจารณ์ คดีคนอื่น เพราะผมไม่รู้ข้อเท็จจริง และไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายความของคู่ความ เพราะจะเป็นการผิดมรรยาททนายความที่ไปยุ่งเกี่ยว ก้าวก่าย วิพากษ์วิจารณ์ในคดี และอาจมีผลกระทบต่อคู่ความที่มีคดีอีกด้วย อีกทั้งมีผลต่อประชาชนผู้ไม่ทราบข้อเท็จจริงอาจเข้าใจผิดจากการให้สัมภาษณ์วิพากษ์วิจารณ์ในทางคดีได้ ผมเลยไม่ให้ข่าว หรือให้สัมภาษณ์ หรือวิพากษ์วิจารณ์คดีของใคร เพราะจะทำให้เสียหายได้

ผมจึงอยากถามทนายเดชา ว่า คุณมาวิพากษ์วิจารณ์คดีหวยมังกรฟ้าทำไม? คุณเป็นใคร? เกี่ยวข้องในคดีอย่างไร? มีสิทธิอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์คดีของผม? มันเป็นการผิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงคุณรู้ไหม? ทนายเดชา ไลฟ์สด 2 ครั้ง และเตือนผมและแทมป์ มังกรฟ้า ว่า อย่ากร่างที่ผมพูดว่า ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ตั้งข้อหา “กระจอก ระวังจะโดนข้อหาเพิ่ม” คำพูดของเดชาทำให้ลูกความของผมเสียขวัญกำลังใจ ข่มขู่ผมและเป็นการดูถูกความรู้ของผมอีกด้วย

ผมอยาบอกทนายเดชาว่า ผมจบนิติศาสตร์บันฑิต รุ่น 10 ปี 2527 จาก ม.รามคำแหง น่าจะเป็นรุ่นเดียวกับทนายเดชา และจบเนติบัณฑิต รุ่น 39 ปี 2529 ถ้าผมจำไม่ผิด ถ้าผิดขออภัยด้วย ผมเคยเห็นคุณไปที่เนติบัณฑิต สมัยที่ผมยังเรียนซึ่งอยู่ที่สนามหลวง แต่ทราบมาว่า ทนายเดชา เพิ่งจบเนติบัณฑิต รุ่น 69 ห่างกับผม 30 ปี และผมยังจบปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต จาก ม.อีสเทิร์นเอเชีย จบหลักสูตรกฎหมายชั้นสูง จากสภาทนายความ อีกด้วย

ผมเป็นทนายความมา 37 ปี ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย มีผลงานในทางคดีดังมากมาย เช่น คดี 7 โจ๋ ฆ่าคนพิการ, คดีพ่อกระโดดตึกที่ศาลอาญา, คดีป้าทุบรถ, คดีน้องต้าแงเด็กเมียนมาหายในไร่อ้อย และที่กล่าวหาว่า นายฝนคนพิการทางสติปัญญา พาน้องต้าแงไปตาย, คดีกล่าวหาว่า ม.พิษณุโลก ทุจริตตำแหน่งทางวิชาการ, คดีกล่าวหา 3 แม่ลูกค้ามนุษย์ และดำเนินคดีกับ แรงงานชาวเมียนมา และ เจ้าหน้าที่ DSI และเมื่อเร็วๆ นี้ คือคดีนักเรียนนายร้อยกระโดดร่มไม่กาง ล่าสุดคดีหวยมังกรฟ้า และอีกมากมาย รวมแล้วกว่า 40 คดี ซึ่งเป็นคดีที่โด่งดังเป็นที่สนใจของประชาชน ต่อสู้กับอิทธิพลจนถูกฟันที่ศรีษะที่ศาลอาญา เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2551 สื่อมวลชนได้ให้ฉายาว่า “ทนายกระดูกเหล็ก”

ผมอยากถาม ทนายเดชา มีผลงานอะไรบ้าง? มีความรู้ขนาดไหนถึงกล้ามาวิพากษ์วิจารณ์คดีของผม? นอกจากนี้ เมื่อปี 2555 ผมได้เป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ, ปี 2549 รับรางวัลเทพทองพระราชทาน จากพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะนักจัดรายการวิทยุดีเด่น, ปี 2552 ได้รับรางวัลหม่อมงามจิตร บุรฉัตร ในฐานะเป็นผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น, ปี 2559 ได้รับรางวัล ศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนแสงทองวิทยา, ปี 2562 ได้รับรางวัล ศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

ส่วนกรณีที่เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 ที่มีการจับกุมคุณแทมป์ มังกรฟ้า และผมพูดว่า ตำรวจตั้งข้อหากระจอก นั้น คำว่า “กระจอก” หมายความว่า เล็กน้อย ข้อหากระจอก คือ ข้อหาเล็กน้อย ทนายเดชารู้ไหม ชุดจับกุม ตำรวจทำอะไรกับคุณแทมป์ลูกความของผมบ้าง?

ตำรวจก็รู้ นักข่าว ประชาชนทั่วไปรู้ เพราะได้มีการเสนอข่าวว่า ในวันที่ 6 เมษายน 2565 เวลา 10.00 น. จะมีการแถลงข่าว “ทำไมหวยมาออกที่มังกรฟ้า” จะมีการเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งหมด แต่ปรากฏว่า ในวันที่ 5 เมษายน 2565 มีการขอหมายจับคุณแทมป์ และวันรุ่งขึ้นวันที่ 6 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 7 โมงเศษ ๆ ก่อนแถลงข่าว 2 ชั่วโมง ตำรวจนำกำลังตำรวจ นักข่าวมาประมาณ 20 คน มาจับและประโคมข่าวใหญ่โต เป็นการประจานคุณแทมป์ เหมือนกับคุณแทมป์ เป็นอาชญากรคนสำคัญ ทั้งที่ๆ ข้อหาที่ออกหมายจับนั้น ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) พ.ร.บ.ขายตรงฯ และข้อหาอื่นๆ ไม่ใช่ข้อหาที่ร้ายแรง ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วสามารถออกหมายเรียกได้ เพราะไม่ใช่เหตุจำเป็นเร่งด่วน อีกทั้งคุณแทมป์ ก็มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน หรือเป็นอาชญากรคดีร้ายแรง ทำแบบลุกลี้ลุกลน น่าสงสัย!!!

ผมถามทำเพื่ออะไร? ในขณะเดียวกันมีนายเสกสกล ก็ได้มาบัญชาการและแถลงข่าวอยู่ที่ชั้น 3 ของ สภ.ชัยพฤกษ์ เท่าที่นักข่าวบอกผมมา เพียงเพื่อไม่ให้คุณแทมป์มาแถลงข่าวร่วมกับผม ผมมองว่า เป็นการเตะตัดขา ไม่ให้มาแถลงข่าวร่วมกับผม ดีน่ะ ผมได้ไปที่ สภ.ชัยพฤกษ์ ชี้แจงกับผู้การไพโรจน์ และตำรวจโดยใช้ข้อกฎหมายคุยกันถึงเข้าใจกัน ในที่สุดคุณแทมป์ก็ได้รับการประกันตัว และปล่อยตัวโดยเร็วทันแถลงข่าว

ผมถามทนายเดชา รู้ข้อเท็จจริงนี้ไหม? และขอถามว่า ทนายเดชา เป็นโฆษก สตช.ตั้งแต่เมื่อไหร? ทำไมต้องมาเจ็บแค้นแทนตำรวจที่กระทำต่อคุณแทมป์ขนาดนี้ด้วย? และทนายเดชามาเกี่ยวข้องอะไรด้วย? มีสิทธิอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์คดีของผม และข่มขู่ผมและคุณแทมป์? หากไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ ผมและคุณแทมป์ อาจะร้องคดีมรรยาททนายความได้นะ!!!

ผมจึงอยากจะถามทนายเดชาว่า คุณมีปัญหาอะไรกับผม ถ้ามีปัญหาบอกมา เคลียร์กับผมได้ ผมพร้อม ทุกที่ทุกเวลา และถ้าจะมาวิพากษ์วิจารณ์คดีผมอีกให้ออกชื่อทนายความมาเลย ผมจะได้ดำเนินคดีถูกตัว ไม่ต้องอ้อมค้อมกัน ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย อย่าประพฤติตัวอย่างนี้อีกน่ะ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน”..

ขอบคุณภาพประกอบ : ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช