จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปภาพและเหตุการณ์ สามีกำลังทำร้ายภรรยาข้างถนนโดยไม่สนใจว่าลูกจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ โดยในคลิปปรากฏเป็นภาพของชายวัยกลางคน กำลังพูดคุยกับหญิงสาวด้านหลังรถกระบะ โดยฝ่ายชายแสดงความไม่พอใจฝ่ายหญิง มีการพูดจาด่าทอด้วยคำหยาบคายและใช้เท้าถีบจนอีกฝ่ายล้มคว่ำ สาเหตุจาก ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นอดีตภรรยาไปแตะต้องภรรยาคนใหม่ จากนั้นไม่นาน ก็มีชาวบ้านที่ขับรถบรรทุกผ่านมาเจอ จึงเข้ามาห้ามปรามบอกให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็น ๆ และกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บของเด็กที่กำลังร้องไห้ก่อน

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 15. เม.ย. น.ส.เอ (นามสมมุติ) ชาว อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นหญิงสาวที่ปรากฏอยู่ในคลิปที่แชร์กันในโลกออนไลน์จริง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนขี่ จยย.ไปรับลูกชายวัย 1 ขวบ 4 เดือน กลับบ้านพัก โดยก่อนเกิดเหตุ อดีตสามีที่เลิกรากันไป มารับลูกชายไปเที่ยวและทำบุญด้วยกัน แต่ภายหลังพบว่า อดีตสามีไม่ได้ไปทำบุญหรือไปเที่ยวแต่อย่างใด ทั้งยังเอาลูกไปนั่งกินดื่มในวงเหล้า และมีอาการมึนเมาตลอดเวลา ด้วยความเป็นห่วงจึงให้น้องสาวขี่ จยย.ไปรับลูกชายด้วยกัน ซึ่งปรากฏว่าลูกชายไปนั่งอยู่กับภรรยาคนใหม่ของอดีตสามี และเมื่อขอตัวลูกกลับบ้าน ปรากฏว่าฝ่ายหญิงไม่ยอมให้กลับ จึงมีปากเสียงกันอย่างรุงแรง กระทั่งอีกฝ่ายลงไม้ลงมือจนตนต้องป้องกันตัว

ระหว่างนั้นฝ่ายอดีตสามีได้รีบเข้ามาทำร้าย และด่าทอตน เนื่องจากไม่พอใจที่ตนไปแตะต้องภรรยาใหม่ จนกระทั่งมีคนเข้ามาห้าม ตนจึงพาลูกกลับบ้านได้ แต่เรื่องยังไม่จบ ระหว่างทางฝ่ายอดีตสามียังขับรถกระบะตามมาปาดหน้า ลงมาทำร้ายร่างกายตน ด้วยการตบและเตะอย่างแรง โดยไม่สนใจว่าตนกำลังอุ้มลูกอยู่หรือไม่ แม้จะเอาตัวเข้ารับ แต่แรงกระแทกก็ยังทำให้ลูกหล่นจากอก หน้าไปกระแทกพื้นอย่างแรงจนเขียวช้ำ น้องสาวต้องรีบมาอุ้มลูกของตนไว้ก่อนพยายามห้ามปราม แต่อดีตสามีก็ไม่ฟัง ตบตีและถีบตนต่อไปจนร่างกายบอบช้ำ โชคยังดีที่มีคนขับรถบรรทุกผ่านมา ได้เข้ามาช่วยเหลือห้ามปราม ไม่ให้อดีตสามีของตนทำร้ายตนไปมากกว่านี้

หลังเกิดเหตุตนเข้าแจ้งความยัง สภ.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เพื่อจะดำเนินคดีกับอดีตสามีอย่างถึงที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ให้ตนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลปราสาท เพื่อนำหลักฐานการตรวจวินิจฉัยของแพทย์มาประกอบสำนวน เพื่อดำเนินคดีกับอดีตสามีต่อไป.