เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายไตรฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้รับหลักฐานการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด จาก น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ขอให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว และขอให้รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีสมาชิกสหกรณ์ได้รับความเสียหาย 85 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 491 ล้านบาท จำนวน 1,133 บัญชี  ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอกำลังตั้งเลขสืบสวน โดยมอบหมายให้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลรายละเอียดของคดี พร้อมทั้งประสานไปยังธนาคารเพื่อตรวจสอบบัญชีของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ คดีนี้อาจจะว่ามีผู้ใหญ่ระดับบิ๊กหลายรายอยู่เบื้องหลัง และมีข้อมูลคนใกล้ชิดข้าราชการระดับบิ๊กครอบครองรถหรูหลายคัน โดยจากการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมการเงินยังพบความเชื่อมโยงว่า มีเงินจากสหกรณ์ฯ ถูกโยกเข้า-ออกไปยังบัญชีของบุคคลใดและบ้านหลังไหนบ้าง และนำเงินไปฟอกเพื่อซื้อสินทรัพย์หรือแปลสภาพเพื่อตบตาการตรวจสอบให้ดูเหมือนว่า ทรัพย์สินดังกล่าวได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า สำหรับการทุจริตดังกล่าวเกิดจากความไว้วางใจผู้บริหารสหกรณ์ฯ ให้สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่ฝากสมุดไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลบัญชีและไม่ได้มีการตรวจระบบการฝากเงิน คาดว่าตัวเลขความเสียหายน่าจะสูงกว่าที่ทางกระทรวงเกษตรฯ แจ้งมา ดังนั้น คดีนี้จึงน่าจะเข้าเงื่อนไขที่จะรับเป็นคดีพิเศษได้ ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ร่วมกระทำความผิดดีเอสไอจะแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน คาดว่าการตรวจสอบคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากมีหลักฐานและมีผู้ให้เบาะแสมากพอสมควร โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ แต่มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง กับผู้ต้องสงสัย 2 ราย คือ นางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ และ นางสิริพร รัตนปราการ หัวหน้าฝ่ายการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ