เบน แอชล็อค เป็นเจ้าของร้านสเต๊ก ‘โคลตันส์ สเต๊กเฮาส์ แอนด์ กริลล์’ ในเมืองบาร์ดส์ทาวน์ รัฐเคนทักกี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ถึงสาเหตุที่เขาตัดสินใจนำธงชาติยูเครนแขวนไว้ที่ป้ายหน้าร้านของเขา จนกระทั่งได้รับคำตำหนิและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบอย่างรุนแรง

เหตุที่ แอชล็อค แขวนธงชาติยูเครนเป็นเพราะเขาและภรรยารับเลี้ยงลูกบุญธรรมซึ่งเป็นชาวยูเครนเมื่อสามปีก่อน ดังนั้น เมื่อรัสเซียเริ่มรุกรานยูเครน แอชล็อค จึงอยากจะแสดงความสนับสนุนประเทศบ้านเกิดของลูกชาย ด้วยการแขวนธงชาติยูเครนไว้หน้าร้าน 

แอชล็อคไม่คิดว่าการแสดงออกเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาจะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมา แต่ไม่นานหลังจากที่เขาแขวนธงยูเครนเหนือร้าน ราวต้นเดือน เม.ย. เขาก็เริ่มได้รับข้อความแสดงความเกลียดชังจากลูกค้าหลายรายทางโทรศัพท์ ช่องทางของเฟซบุ๊กเพจและกูเกิลรีวิว

ลูกค้ารายหนึ่งส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊กเพจว่าพวกเขาเป็นขาประจำเก่าแก่ แต่จะไม่มาที่ร้านของเขาอีก จนกว่าร้านจะนำธงชาติสหรัฐมาแขวนแทนที่ธงชาติยูเครน 

ลูกค้าอีกหลายรายแสดงความเห็นอย่างหยาบคายและเรียกร้องให้ทางร้านเก็บธงชาติยูเครนไปเสีย รวมถึงกล่าวหาว่าผู้จัดการร้านเป็นพวกกระหายสงครามและเป็นพวกนาซี

ในที่สุด แอชล็อค ก็ต้องเขียนแถลงการณ์ลงบนเฟซบุ๊กเพจของทางร้าน โดยมีใจความเรียกร้องขอให้ทุกคนปฏิบัติต่อกันในทางที่ดีผ่านช่องทางการสื่อสารด้วยแป้นพิมพ์ เขายอมรับว่ารู้สึกเจ็บปวดต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็ไม่ยอมปลดธงชาติยูเครนลงมา

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ก็เริ่มมีคนส่งข้อความให้กำลังใจทางร้านผ่านทางเฟซบุ๊กเพจเป็นจำนวนมาก และกล่าวขอบคุณที่ทางร้านแสดงออกว่าให้ความสนับสนุนประชาชนชาวยูเครน

แอชล็อค กล่าวว่าเขาจะยังคงแขวนธงชาติยูเครนไว้จนกว่าจะถึงวันที่กองทัพรัสเซียออกจากประเทศยูเครน เมื่อสงครามยุติลง

ลูกชายวัยรุ่นชาวยูเครนของแอชล็อค เป็นหนึ่งในเด็ก ๆ ที่เขาและภรรยารับเป็นบุตรบุญธรรม ครอบครัวแอชล็อค มีลูกทั้งหมด 13 คน โดยเป็นลูกแท้ ๆ ของแอชล็อค 8 คน และลูกบุญธรรมอีก 5 คน

นอกจากร้านโคลตันส์ ยังมีเจ้าของร้านอาหารทั่วสหรัฐ ที่แสดงความสนับสนุนประเทศยูเครนท่ามกลางวิกฤติสงครามและความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และมีบางร้านถึงกับเปลี่ยนชื่อเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียไปเป็นชื่ออื่นแทน

แหล่งข่าว : Businessinsider.com, Washingtom.com

เคริดตภาพ : Getty Images