เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีครอบครัวพ่อแม่ลูก 4 ชีวิต หายออกจากบ้านพร้อมรถกระบะ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย นานกว่า 10 วัน โดยญาติวอนใครพบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส พร้อมมีการแชร์ข้อความและภาพประกาศตามหา นายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี น.ส.นฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี พร้อมลูกชาย อายุ 12 ปี และ ลูกสาวอายุ 7 ปี ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 3 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย หายออกจากบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม ไปตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. จนถึงวันนี้ผ่านมา 10 วัน ยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งก่อนที่จะหายตัวไปแจ้งกับทางญาติว่าจะไปเที่ยว แต่ไม่ทราบว่าไปที่ไหนปัจจุบันยังไม่พบตัว ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ

เมื่อเดินทางไปถึง บ้านเลขที่ 120/1 บ้านลุเตา หมู่ 8 ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านของนายสอบ บุญชู อายุ 69 ปี หรือตาล้วน บิดาของนายนิรุตน์ หัวหน้าครอบครัวที่สูญหาย เบื้องต้นเล่าว่า ปกติแล้วนายนิรุตน์ จะอาศัยอยู่กับเมียและลูกที่อ.ทุ่งเสลี่ยม ได้ประมาณ 2 ปี โดยมีอาชีพเกษตรกร ซึ่งลูกชายได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.

สอบถาม น.ส.หิรัญญา บุญชู อายุ 19 ปี ลูกสาวคนโตของนายนิรุตน์ เล่าทั้งน้ำตาว่า จะพากันไปเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาก็ติดต่อพูดคุยกันตลอดกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 10 เม.ย. ยังสามารถส่งข้อความติดต่อกับพ่อได้อยู่ หลังจากนั้นติดต่อพ่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งตอนนี้ทั้งพ่อ แม่ และน้องอีก 2 คนหายไปแบบไร้วี่แวว เป็นห่วงมาก

ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย บุญมีจ้อย สว.สส.สภ.บ้านไร่ เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งคนหาย ก็ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลและประสานไปยังจุดต่างๆที่คาดว่ารถของนายนิรุตน์ จะวิ่งผ่าน ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถนายนิรุตน์ วิ่งผ่านบริเวณสี่แยก อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร มุ่งหน้าไปทาง จ.นครสวรรค์ เพียงจุดเดียว จากนั้นไม่พบอีกเลย ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อนายนิรุตน์ ได้ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ถ้ามีใครพบเห็นรถคันดังกล่าวสามารถแจ้งมาได้ที่ สภ.บ้านไร่ หรือที่ครอบครัว โทร. 08-4777-2591 นายล้วน บุญชู บิดานายนิรุตน์ หรือ 08-1281-8679 น.ส.หิรัญญา บุญชู ลูกสาวนายนิรุตน์ ได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากฝ่ายสืบสวนแจ้งว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบทะเบียนรถ ทำให้พบข้อมูลว่า รถกระบะของนายนิรุตน์ ถูกนำไปขายที่เต็นท์รถยนต์มือสองแห่งหนึ่ง ใน จ.อุดรธานี ชุดสืบสวน จึงประสานงานไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อตรวจสอบแล้วพบว่ารถยนต์กระบะยังจอดอยู่ที่เต้นท์รถยนต์มือสอง โดยมีการซื้อขายมาหลายทอด ซึ่งทางเต็นท์รถมือสองดังกล่าวก็ออกมายืนยันว่า รถกระบะมีการซื้อขายมาอย่างถูกต้องจากผู้นำมาขายอีกทอดหนึ่ง ทำให้ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการแกะรอยว่ารถคันนี้มาปรากฏที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างไร และมีการซื้อขายมาอย่างถูกต้องหรือไม่ เพื่อรวบรวมหลักฐานใช้เป็นเบาะแสติดตามตัวทั้ง 4 ชีวิต ที่หายปริศนาต่อไป.