กรณี นายชัชวาล ทรัพย์แก้วยอด ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ทีมกฎหมาย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเอาผิด หลังมีชาวบ้านพื้นที่ บ้านคำเตย หมู่ 12 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ร้องเรียน กลุ่มนายทุนผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างถนนทางหลวง กรมทางหลวง มีการลักลอบขุดดินลูกรัง ในพื้นที่ สปก. โดยผิดกฎหมาย เพื่อนำไปดำเนินการก่อสร้างโครงการ ขยายทางหลวงหมายเลข 2032 สาย บ้านท่าดอกแก้ว – อ.ศรีสงคราม ระยะทางประมาณ เกือบ 30 กิโลเมตร โดยจะนำดินจากพื้นที่ สปก.ไปถมที่ดินช่วงขยายเส้นทางการจราจร ซึ่งเป็นการฉวยโอกาสซื้อขายกับชาวบ้านราคาต้นทุนต่ำ และมีระยะทางใกล้ในการบรรทุกขนส่ง ลดต้นทุนหวังโกยกำไรนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายชัชวาล พร้อมฝ่ายกฎหมาย นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ศักรินทร์ โพธินาม สว.(สอบสวน) สภ.ท่าอุเทน เพื่อให้ดำเนินการสอบสวน ดำเนินคดี กล่าวโทษผู้กระทำความผิดตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และลงพื้นที่ชี้จุดเกิดเหตุ บริเวณที่มีการลักลอบขุดขนดินในพื้นที่ สปก.ที่มีการจัดสรรให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ เมื่อปี 2544 จำนวน 2 แปลง ซึ่งทางตำรวจจะได้เตรียมรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกเกษตรกร ผู้ครอบครอบพื้นที่ สปก.มาสอบสวนขยายผลดำเนินคดี รวมถึงนายทุน ในข้อหาลักทรัพย์แผ่นดินต่อไป ซึ่งจะมีการดำเนินคดีเอาผิดทั้งทางอาญา และทางแพ่ง ส่วนพื้นที่ดังกล่าว พบว่ากลุ่มนายทุนได้มีการนำเครื่องจักร รถแบคโฮ และรถบรรทุก ออกจากพื้นที่หมดแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ดำเนินคดี โดยจะได้สอบสวนขยายผลเอาผิดตามพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ

นายชัชวาล กล่าวว่า ในเบื้องต้นหลังทีมกฎหมายลงพื้นที่แล้วได้มาชี้แจงรายละเอียดแล้ว พบว่ามีการขุดดินในที่ดิน สปก.จริง ซึ่งออกให้กับเกษตรกรไปตั้งแต่ปี 2544 ในที่ดิน 2 แปลงน่าจะเป็นพี่น้องกัน ในวันที่เข้าไปในพื้นที่เราไม่ได้เจอตัวของเกษตรกร พื้นที่ที่ขุดมีกัน 2 จุดๆ ละไร่เศษๆ นอกนั้นเป็นการปรับพื้นที่เพื่อเอาต้นไม้ออกไปคาดว่าเป็นการเตรียมที่จะขุด แต่ที่ขุดไปแล้วเห็นจากสภาพมีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ ส่วนขั้นตอนที่เราจะดำเนินต่อไปนี้คือ ในส่วนของการดำเนินคดีอาญาในข้อหาลักทรัพย์ พร้อมดำเนินการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ในวันนี้ ส่วนในการที่เกษตรกรทำผิดระเบียบไหม เราก็จะมีหนังสือแจ้งให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับการกระทำความผิดครั้งนี้ ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเราก็จะดำเนินการฟ้องในทางแพ่ง นอกจากนี้ในระดับอำเภอ ตลอดเวลาที่ผ่านมามีการชี้แจงในข้อระเบียบ กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอด บอกเสมอว่าผลเสียที่เกิดขึ้นเกี่ยวเอาดินออกไปไม่ว่าจะน้อยจะมาก มันจะทำให้เกษตรกรเสียสิทธิในที่ดิน เราก็เตือนมาโดยตลอด ทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ไม่เกิดปัญหา เพิ่งมาเจอรายนี้เป็นรายแรก ที่ผ่านมาเราเข้มงวดกับเกษตรกรผู้ได้รับสิทธิทำกินใน สปก. อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจะจะต้องดำเนินการโดยเคร่งครัด ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป.