สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่า ศูนย์วิจัย “อินดิเคเตอร์ โพลิติก อินโดนีเซีย” จัดการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างชาวอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 14-19 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ในสายตาของประชาชน อยู่ที่ 59.9% ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับสถิติ 75.3% เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่มีการสอบถามความคิดเห็นเกิดขึ้นประมาณ 1 เดือน หลังราคาน้ำมันปาล์มในอินโดนีเซียพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และการที่ประชาชนมองว่า รัฐบาลไม่สามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ มีผลอย่างชัดเจนต่อความนิยมของชาวอินโดนีเซียที่มีผู้ต่อผู้นำคนปัจจุบัน ซึ่งนับตั้งแต่รับตำแหน่ง เมื่อปี 2557 มีคะแนนนิยมอยู่ในระดับสูงมาตลอด
อย่างไรก็ตาม วิโดโดประกาศมาตรการ ระงับส่งออกน้ำมันปาล์มสำหรับการประกอบอาหาร และวัตถุดิบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดในอินโดนีเซีย ประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก มีผลตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.นี้ ซึ่งผลสำรวจระบุด้วยว่า 66% เห็นด้วย
กระนั้นในเวลาเดียวกัน ตลาดโลกยังคงมีความกังวล เนื่องจากไม่สามารคาดการณ์ได้ว่า มาตรการของอินโดนีเซียจะมีผลนานเท่าใด ส่งผลให้สัญญาซื้อขายน้ำมันพืชชนิดอื่นปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ท่ามกลางวิกฤติห่วงโซ่อาหารโลกที่ตึงตัวอย่างหนัก จากวิกฤติสงครามในยูเครน.
เครดิตภาพ : REUTERS
