สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่าศาลในกรุงเนปิดอว์มีคำพิพากษา เมื่อวันพุธ ให้นางออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือน รับโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ฐานมีความผิดจริงตามคำฟ้องทั้งหมด ในคดีแรกจากทั้งหมด 11 คดี ที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น


อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อว่า คำพิพากษาไม่น่าหมายถึงการที่นางซูจีต้องเข้ารับโทษในเรือนจำจริง เนื่องจากการตัดสินความผิดก่อนหน้านั้น เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเธอต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี จากข้อหาปลุกระดมให้เกิดความแตกแยก และ 2 ปี ฐานละเมิดมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ภายใต้กฎหมายภัยพิบัติทางธรรมชาติ

แต่ต่อมา พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา มีคำสั่ง “อภัยโทษบางส่วน” เหลือ 2 ปี และให้เธอถูกคุมขัง “อยู่ในสถานที่ซึ่งอยู่มาตั้งแต่ต้น” ที่หมายความว่า นางซูจีจะไม่ต้องเข้าสู่เรือนจำ


ขณะที่แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า คดีที่ศาลตัดสินบทลงโทษนั้น เกี่ยวข้องกับการที่นางซูจีเรียกรับผลประโยชน์ เป็นเงิน 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20.6 ล้านบาท) และทองคำอีก 11 กิโลกรัม จากนายพโย มิน เต็ง มุขมนตรีประจำภูมิภาคย่างกุ้ง


ปัจจุบัน นางซูจี วัย 76 ปี มีคดีความติดตัวอย่างน้อย 18 คดี หากศาลพิพากษาให้เธอรับโทษจำคุกตามบทลงโทษสูงสุดของแต่ละข้อหา อดีตผู้นำหญิงของเมียนมาอาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลานานรวมกัน 190 ปี.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES