จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ส.ค.66 ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสว่ามีบุคคลของรัฐไม่น้อยกว่า 6 คน เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่จากแนวทางการสอบสวนผุ้เกี่ยวข้องให้การปฏิเสธ ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี แต่กลับมีปัญหาการตัดไม้พะยูงรายวันในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะที่โรงเรียนคำไฮวิทยา ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีการเปิดให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนถึง 22 ต้น ในราคา 1.53 แสนบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘ผวจ.กาฬสินธุ์’ ฉุนสั่งแล้วไม่ฟัง! ส่ง 3 องค์กรอิสระ ลุยเอาผิด ‘2 ผอ.’ ขายไม้พะยูงในโรงเรียน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเปิดเอกสาร หลักฐานการชำระเงินจากนายทุนคนหนึ่ง เพื่อซื้อไม้พะยูงจำนวน 22 ต้น และตอไม้จำนวน 2 ตอ กับ โรงเรียนคำไฮวิทยา ระบุจำนวนเงิน 1.53 แสนบาท โดยมีการลงชื่อผู้รับเงินอย่างถูกต้อง ซึ่งเอกสารใบเสร็จรับเงินดังกล่าว ได้ถูกส่งต่อเพื่อรวบรวมในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากกรณีนี้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ไม้พะยูงเป็นไม้มีค่าและอยู่ในที่ราชพัสดุ ซึ่งราคาที่ขายออกไปเพียง 1.53 แสนบาท ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาดหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า ปัญหาการตัดไม้พะยูง ภายในโรงเรียนคำไฮวิทยา นั้น ได้รับรายงานเบื้องต้นจากนายอำเภอหนองกุงศรี ทราบว่า เรื่องนี้ไปเกี่ยวพัน 3 ฝ่าย ที่อนุญาตกันเอง ประกอบด้วย 1.ผอ.โรงเรียนคำไฮวิทยา 2.ผอ.เขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 และ 3. ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ อนุญาตให้ตัดเพื่อหาเงินเข้าหลวง เนื่องจากตามระเบียบกรมธนารักษ์แล้ว การจะตัดไม้ในเขตพื้นที่ราชพัสดุได้นั้น มีข้อยกเว้นในกรณีที่มีความจำเป็นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้รวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเหตุผลและความจำเป็น โดยเปรียบเทียบผลดีและผลเสียในการดำเนินการ พร้อมทั้งความเห็นที่เกี่ยวข้องแล้วส่งให้กรมธนารักษ์พิจารณาความเหมาะสมเป็นรายกรณี

โดยกรณีนี้ เรื่องการตัดไม้พะยูงที่โรงเรียนคำไฮวิทยานั้น สาเหตุเกิดจากฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ทางธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ออกหนังสืออนุญาตให้พ่อค้าไม้พะยูงมาตัด ทั้งที่มีหนังสือข้อสั่งการทางจังหวัดห้ามตัด และมีการขนไม้พะยูงไปเต็มรถสิบล้อ โดยมีหลักฐานปรากฏแต่ปรากฏเอกสารเป็นใบเสร็จรับเงินเพียง 1.53 แสนบาท เท่านั้น.