จากกรณี เหตุฆาตกรรมภายในบ้านเลขที่ 522 หมู่ 6 ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยคนร้ายคือ นายชโนชัย วงแสน หรือ “โน” เจ้าของธุรกิจน้ำดื่ม ใช้ของมีคมฆ่า น.ส.รัฐคณิศร จารุภัทรกิตติโชติ อายุ 56 ปี สาวทอม เจ้าของธุรกิจโครงข่ายอินเทอร์เน็ต เสียชีวิตในบ้านพัก ขณะที่ นายรุจิภาส โชติธรรม อายุ 22 ปี เป็นลูกชายของแฟนสาวของ น.ส.รัฐคณิศร ก็ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ทางตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์-ล้างหนี้สินตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ล่าฆาตกรหนุ่มมีดแทงสาวทอมดับคาบ้าน ตั้งปมฆ่าล้างหนี้-ชิงทอง

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นายรุจิภาส ได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านพักได้แล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้รีบเดินทางไปยังวัดดอนใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพให้กับ น.ส.รัฐคณิศร โดยมี พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ เดินทางมาร่วมงานศพและเข้าสอบถามอาการ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ท่ามกลางกองทัพนักข่าวมารอการสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก ภายหลังเปิดเผยว่า น.ส.รัฐคณิศร แม้จะเป็นผู้หญิงทอม แต่เค้าเปรียบเสมือน “พ่อ” แท้ ๆ โดยวันเกิดเหตุ ตนเดินเท้าออกจากออฟฟิศที่อยู่ข้างบ้าน เพื่อกลับไปกินข้าวกับ “พ่อ” แต่พอไปถึงกลับพบคนร้ายยืนอยู่ในบ้าน เดินปรี่เข้ามาใช้มีดอีโต้ฟันที่หัวของตน ซึ่งตนพยายามต่อสู้แล้วแต่สู้แรงไม่ไหว ทำให้ถูกทำร้ายจนสลบเหมือด พอฟื้นขึ้นมาอีกทีก็ตกอยู่ในสภาพโดนมัดมือเท้าด้วยผ้าม่าน

นายรุจิภาส กล่าวอีกว่า จากนั้นคนร้ายได้บังคับให้ตนบอกที่เก็บทรัพย์สินต่าง ๆ ในบ้าน จนได้สร้อยคอทองคำ 12 บาท พระเลี่ยมทองอีก 8 องค์ เหรียญที่อยู่ในกระปุกออมสินนับพัน และบัตรเอทีเอ็มของพ่อ เท่านั้นยังไม่พอ คนร้ายยังไปแกะเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดที่อยู่ภายในบ้านพัก พร้อมกับยึดโทรศัพท์มือถือของตนและพ่อไปด้วย ซึ่งคนร้ายรู้ดีว่าภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดทั้งหมดภายในบ้าน สามารถเปิดดูผ่านทางมือถือของตนและพ่อได้ นอกจากนี้คนร้ายยังบังคับให้โอนเงินจำนวน 1 ล้านบาทเข้าบัญชีของคนร้าย โดยโอนเข้าไปในบัญชีรอบแรก 5 แสน แต่วงเงินเต็มไม่สามารถโอนเพิ่มได้อีก จึงหลอกไปว่าโอนไปให้หมดแล้ว 1 ล้าน ทำให้คนร้ายยอมปล่อยตัว รอดจากการฆ่าปิดปาก ภายหลังจากคนร้ายหนีไปแล้ว ตนจึงออกจากบ้าน เพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันให้รีบแจ้งตำรวจ

“….ผมรู้ว่าเขามีปัญหาทางหนี้สิน แล้วก็เป็นหนี้พ่ออยู่หลายแสน การทวงถามบ่อย ๆ มันไม่ได้ผิดอะไร เพราะเจ้าหนี้ย่อมทวงถามเรื่องเงินที่ถูกยืมไป คนเป็นหนี้ควรต้องชดใช้ หรือเจรจาประนอมกันได้ อีกทั้งพ่อก็ไม่ได้มีนิสัยโหดร้าย ซ้ำยังคอยช่วยเหลือ นายโน อยู่บ่อย ๆ ด้วยซ้ำ ดังนั้นเรื่องนี้ตนจะไม่อโหสิกรรม หรือให้อภัยนายโนอย่างเด็ดขาด….” นายรุจิภาส กล่าว

ต่อมา บิดาและมารดาของ นายชโนชัย ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อมาไหว้เคารพศพ และขอขมาผู้ตาย ด้วยความเสียใจก่อนจะเดินไปพูดคุยกับ นายรุจิภาส เพื่อขมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับรับปากว่า จะใช้หนี้แทนนายโนที่ยืมไปแทนทั้งหมดเอง.