จำได้เลา ๆ ว่าสัก 2 เดือนก่อนหน้านี้ ยังเคยเขียนถึง ลิเวอร์พูล ในทำนองว่าชีวิตนี้อยู่ได้ด้วยความหวัง เพราะตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด “หงส์แดง” ยังตาม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี 12 แต้ม แถมลูกทีมของ เปป กวาร์ดิโอลา ยังอยู่ในช่วงเข้าฝักสุด ๆ ดูยังไงก็ไล่ยาก…
จำเนียรกาลผ่านไปราว 2 เดือน ตอนนี้ ลูกทีมของ เจอร์เกน คลอปป์ ขยับเข้ามาหายใจรดต้นคอ เหลือช่องว่างตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” แค่ 3 คะแนนแล้ว…!!!
เกมตกค้างนัดเปิดบ้านรับมือ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น มองตามเนื้อผ้าก่อนเกมแล้ว “หงส์แดง” เหนือกว่าหลายกระบุงโกยนัก และเมื่อลงสนามกันจริง ๆ มันก็ไม่ผิดจากที่ใคร ๆ คาดไว้สักเท่าไหร่
การไม่มี ดีโอโก โชตา และ โรแบร์โต ฟีร์มิโน ถูกทดแทนด้วยการมาของ หลุยส์ ดิอาซ ได้อย่างไร้รอยต่อเมื่อต้องประสานงานกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน ขณะที่การมี ติอาโก อัลคันทารา ลงมาคุมเกมในแดนกลางนั้น ทำให้เกมของ “หงส์แดง” ลื่นไหลแบบไม่มีสะดุด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/02/2022-02-23T200355Z_1837048827_UP1EI2N1JQHHT_RTRMADP_3_SOCCER-ENGLAND-LIV-LEE-REPORT-1.jpg)
กระนั้น ในช่วง 10 นาทีแรกดูเหมือน “ยูงทอง” จะเริ่มต้นได้ดีกว่า บีบเกมจน “หงส์แดง” ตั้งลำได้ไม่ถนัด และหากลูกที่ อลิสซอน เบคเกอร์ ออกบอลช้า และถูก แดเนียล เจมส์ วิ่งเข้ามาปั๊มในช่วงนาทีที่ 6 ของเกม กลายเป็นประตู หรือแม้กระท้่งกลายเป็นจุดโทษ (ซึ่งดูแล้วก็ให้ได้อยู่เหมือนกัน) ก็ไม่รู้ว่าโฉมหน้าของเกมจะออกมาแบบเดิมหรือเปล่า?
แต่เมื่อไม่เสียจุดโทษ และไม่เสียประตู มันเหมือนเป็นการสะกิดบรรดาขุนพล “หงส์แดง” ให้ตื่นจากภวังค์ และหลังจากนั้นจนจบเกม พลพรรค “ยูงทอง” แทบไม่ได้โงหัวอีกเลย…
2 จุดโทษของ ซาลาห์ ในครึ่งแรก ไม่น่ามีข้อกังขาใด ๆ และนั่นทำให้ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ขยับจำนวนประตูซีซั่นนี้เป็น 19 ลูก นำโด่งเป็นดาวซัลโวโดยทิ้งอันดับ 2 อย่าง ดีโอโก โชตา ถึง 7 ประตู และอันที่จริงแล้ว ดูจากโอกาสที่มี เกมนี้ “โม” ไม่ได้แฮตทริกถือว่าน่าเสียดายสุด ๆ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/02/2022-02-23T201807Z_1029653183_UP1EI2N1KE5J4_RTRMADP_3_SOCCER-ENGLAND-LIV-LEE-REPORT-1-2.jpg)
ส่วนอีกประตูของ โฌแอล มาทิป ที่พาบอลเข้าไปในแดนของ ลีดส์ ฝากบอลให้ ซาลาห์ แล้วเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษแบบตัวเปล่าเล่าเปลือยไร้คนประกบ ก่อนจะรับบอลกลับมาจาก “โม” แล้วยกข้ามตัว อิลลัน เมส์ลิเยร์ เข้าไปแบบเหนือชั้นนั้น ถทอเป็นความยอดเยี่ยมที่นอกเหนือจากเกมรับ ซึ่งเขาน่าจะเป็นคนที่ยืนคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้มีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว เจ้าตัวยังมีเกมรุกให้เห็นด้วย
ส่วนครึ่งหลัง ทีมของ เจอร์เกน คลอปป์ อาจจะไม่ได้เหยียบคันเร่งมิด เปิดทางให้ทีมเยือนมีโอกาสโต้บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กว่า “ยูงทอง” จะได้โอกาสยิงครั้งแรกก็เลย 1 ชั่วโมงของเกมไปแล้ว และเมื่อทำไม่ได้ “หงส์แดง” จึง “ปิดจ็อบ” ด้วยการรัวอีก 3 ลูกในช่วง 10 นาทีสุดท้าย จาก มาเน 2 ประตู และปิดท้ายด้วยลูกโขกของ ฟาน ไดค์ ครบครึ่งโหลพอดี
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/02/2022-02-23T212709Z_767086339_UP1EI2N1NL7OB_RTRMADP_3_SOCCER-ENGLAND-LIV-LEE-REPORT-1-1.jpg)
2 ประตูของ ซาลาห์ 2 ประตูของ มาเน และ 2 ประตูของคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ จะหาชัยชนะที่สวยงามกว่านี้คงมีไม่มาก แต่สิ่งสำคัญกว่าความสวยงาม คือการไล่ตามจ่าฝูงเหลือแค่ 3 แต้ม เรียกได้ว่าตอนนี้ เปป กวาร์ดิโอลา มองกระจกหลังจะเห็น เจอร์เกน คลอปป์ จี้ตูดเข้ามาแล้ว…
เชื่อว่านาทีนี้ การลุ้นแชมป์จะเป็นเรื่องของ แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ ลิเวอร์พูล แค่ 2 ทีมแน่นอนแล้ว และด้วยสถานการณ์ที่ตามหลังแค่ 3 แต้ม แต่ประตูได้เสียดีกว่าที่ +50 ขณะที่ ซิตี +46 นั้น 12 เกมที่เหลือ แฟนบอลทั้ง 2 ทีมคงต้องกลั้นหายใจ และกระพริบตาไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/02/2022-02-23T213843Z_1254759625_UP1EI2N1O4HPT_RTRMADP_3_SOCCER-ENGLAND-LIV-LEE-REPORT-1-1.jpg)
โดยเฉพาะเกมเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ของ “เรือใบสีฟ้า” ในวันที่ 10 เม.ย. นั้น สำคัญสุด ๆ และอาจเป็นเกมชี้ชาดแชมป์ซีซั่นนี้ได้เลยทีเดียว
แค่พูดถึง เหล่า “เดอะ ค็อป” ก็แทบอดใจรอไม่ไหวแล้วล่ะครับ….