ณ วันนี้!! เชื่อได้ว่าคนไทยทั้งประเทศต้องก้มหน้ารับสภาพ!! กับราคาสินค้าที่พาเหรดขึ้นราคากันแทบทุกประเภท ไม่ว่าจะของกิน ของใช้ อาหารสด อาหารแห้ง และอีกมากมายสารพัดจะด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถควบคุมได้

อย่าง…กรณีของต้นทุนราคาพลังงาน หรือกรณีของราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ หรือแม้แต่มาตรการการห้ามส่งออกสินค้าของเพื่อนบ้านโดยเฉพาะเรื่องของน้ำมันปาล์ม

หรือจะด้วยเหตุผลที่สุดจะควบคุม อย่าง…การฉวยโอกาสขึ้นราคากันเกินจริง หรือกรณีของการปรับเปลี่ยนแพ็คเกจ การปรับส่วนผสม การปรับรูปแบบ ก็ตามทีเถอะ

ถามจริง ๆ ทุกวันนี้คนไทยเตรียมพร้อมรับสภาพ!! สินค้าแพงกันได้ดีแค่ไหน?

เพราะท่ามกลางสภาพปัญหาเศรษฐกิจ ที่มีแต่รายจ่าย รายได้ไม่มีหรือรายได้ไม่เพิ่ม แล้วสุดท้าย!! จะเลือกใช้วิธีใดแก้ปัญหา? เชื่อเถอะ… หนีไม่พ้น “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”

อย่าลืมว่า ขนาด “ทีมเศรษฐกิจ” ของรัฐบาลเอง ยังส่งสัญญาณบอกมาตั้งนานแล้วว่าทำอะไรไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง เท่านั้น ถึงจะอยู่รอด

ขณะที่หัวหน้ารัฐบาลเอง ก็ได้แต่ขอร้อง เรียกร้อง ให้บรรดาผู้ประกอบการเห็นใจผู้บริโภค เห็นใจประชาชนคนไทยด้วยกัน หากจะขึ้นราคาสินค้าก็ต้องเป็นไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างแท้จริง

จึงไม่แปลกหาก “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” จะเป็นที่ฮิตติดปากกันไปจนทั่ว จะ…ด้วยเหตุผลของการล้อเลียน จะ… เป็นเรื่องของการเหน็บแนม หรือจะ…ปลอบตัวเอง ก็แล้วแต่

อย่างที่บอก เพราะเรา ๆ ท่าน ๆ ก็หนีไม่พ้นแน่นอน ส่วนจะมานั่งรอว่ารัฐบาลจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ อาจซ้ำเติมบรรดานายจ้าง จนทำให้เศรษฐกิจหัวคะมำลงอีกก็เป็นไปได้

ขนาด…รัฐบาลเองก็แทบเอาตัวไม่รอด เพราะรายได้ที่เข้ามาใช้จ่ายก็แทบชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นรัฐบาล คงต้องฮึด ต้องอึด ต้องสู้ เพื่อรักษาคะแนนนิยม จากการตรึงราคาดีเซลเอาไว้ให้ได้ที่ลิตรละ 30 บาท ไม่ “ยอมปล่อย” ให้ขึ้นแบบขั้นบันไดลิตรละ 32-35 บาท อย่างที่เห็น

อย่าลืมว่า…ทุกวันนี้ทั้งผู้นำรัฐบาล ทั้งรัฐบาล ต่างก็นั่งนับวันถอยหลัง ท่ามกลางคะแนนนิยมก็เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ แถมเงินงบประมาณก็ร่อยหรอลงทุกวัน การจะสรรหาออกมาตรการมากู้คะแนนนิยม ก็หืดจับ ทำไม่ได้เพราะไม่มีเงิน

ลำพัง!! เพียงรอผลของการ “เปิดประเทศ” ที่ช่วยทำให้ภาคท่องเที่ยวกระเตื้องเพิ่มมากขึ้น และคาดการณ์กันไว้ว่าตลอดทั้งปี 65 น่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมประมาณ 9 แสนล้านบาท เข้ามาช่วยเยียวยา

แม้ผลงานการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64-มี.ค.65) จะเก็บรายได้สุทธิ ได้มากถึง 1.09 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายถึง 6.7%

รวมไปถึงการไล่บี้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มพวกแพลตฟอร์มต่างประเทศ หรืออี-เซอร์วิส ที่ทำผลงานได้เยี่ยมกว่า 4 พันล้านบาท และเชื่อว่าจะทะลุ หมื่นล้านบาทในสิ้นปีนี้แน่นอน

แต่อย่าลืมว่า ปัญหาใหญ่…ที่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังไม่รู้จะไปจบลงที่จุดไหน และยังคาดเดาได้ยากว่าจะยืดเยื้อออกไปนานเพียงใด

ส่วนปัญหาในประเทศอย่างเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่ทะยานไปถึง 217,952.59 บาท ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 14 ปีที่ผ่านมา ก็ยังเป็น “หอกข้างแคร่” สำคัญ ไม่น้อยไปกว่าเรื่องของสินค้าแพง

เผลอ ๆ ว่ากันว่า สถิติหนี้ครัวเรือนในปี 65 นี้ อาจทะยานขึ้นไปสูงสุดถึง 95% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี กันทีเดียว!!

ขณะที่หนี้ของประเทศ ล่าสุด ณ วันที่ 28 ก.พ.65 สิ้นเดือน ก.พ. 65 อยู่ที่ระดับ 60.17% ต่อจีดีพี โดยมีมูลค่ากว่า 9.82 ล้านล้านบาท

เชื่อได้ว่า…คนไทยในเวลานี้ คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องยอมรับสภาพ!!ก็เท่านั้น

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”