คนเห็นด้วยก็มาก ไม่เห็นด้วยก็มี กับนโยบายเปิดประเทศใน 120 วันของนายกฯ

วันที่นายกฯ แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ คนลุ้นกันเยอะจะพูดอะไร พูดรู้เรื่องหรือเปล่า แต่พอฟังจริง

นายกฯ พูดชัดเลยว่า เราจะต้องมองอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือการเปิดประเทศ และรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง นี่คือหนทางสำคัญหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มานาน

ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่า ไทยจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน นับจากวันนี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ หากพร้อมได้เร็วกว่าก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโด๊สเรียบร้อยแล้ว ควรเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องมีเงื่อนไขข้อห้ามที่สร้างความยากลำบาก รวมทั้งคนไทยที่ไปต่างประเทศ หากเป็นคนที่ฉีดวัคซีนครบโด๊สแล้ว ก็ควรที่จะกลับเข้าประเทศของตัวเองได้ โดยไม่ต้องกักตัวเช่นเดียวกัน
ข้อสั่งการก็ชัดเจนว่า ให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เริ่มเตรียมการและเตรียมตัวทุกอย่างให้พร้อม เพื่อที่จะเปิดให้มีการทำมาหากินของประชาชนได้อีกครั้งตามกรอบเวลาที่ได้กล่าวไป ซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องดำเนินการ เรื่องการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ภาคเอกชนทั้งรายใหญ่ รายย่อยขานรับทันที เพราะนายกฯ การันตีเรื่องวัคซีน อาวุธที่ใช้ต่อสู้กับโรคร้ายที่มีเข้ามาแน่ ๆ 105 ล้านโด๊สในปีนี้คุณอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ โพสต์สนับสนุนตรง ๆ บอกว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเป็นการจุดเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง เมื่อกล้าเปิดก็ต้องเปิดแบบมีกลยุทธ์ ควรเปิดหลาย ๆ พื้นที่หลาย ๆ จังหวัดพร้อมกัน ประชาชนและธุรกิจทั่วประเทศ (ไม่ใช่แค่ภูเก็ต) ลมหายใจใกล้หมด จึงต้องทำเร็วที่สุดเปิดทุกพื้นที่ที่มีความพร้อมในมาตรการป้องกันโควิดดีที่สุด

รวมทั้งต้องกระจายอำนาจและมอบอำนาจจริง ๆ ให้ราชการส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นอย่ารวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลางอย่างที่ผ่านมา

การพยุงประชาชนและประเทศ ภาครัฐต้องเยียวยาทุกมาตรการต่อไป แม้จะต้องใช้งบประมาณหรือเงินกู้ โดยเฉพาะคนยากคนจนเกษตรกรและเอสเอ็มอี อย่ากังวลเรื่องเพดานเงินกู้มากนัก ไทยมีศักยภาพมากพอในการสร้างรายได้ถ้าบริหารถูกทิศถูกทางการใช้หนี้ในอนาคตไม่ใช่เรื่องยาก ตอนนี้ต้องช่วยประชาชนช่วยธุรกิจให้อยู่รอดเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในวันข้างหน้า

ความรับผิดชอบร่วมกันต่อ Next normal เราทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน อย่าให้เป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลฝ่ายเดียว วิกฤติครั้งนี้ใหญ่กว่าทุกสงครามที่เราเคยเผชิญ มีเดิมพันที่สูงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เราจะแพ้ไม่ได้

การบริหารจัดการต้องโปร่งใสไร้ทุจริต ต้องไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพรรคพวกหรือผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ว่าในรูปแบบใด และต้องจัดการเฉียบขาดกับใครก็ตามที่ทุจริตประพฤติมิชอบกับการจัดหาวัคซีนหรือการจัดซื้อเวชภัณฑ์ใด ๆ ในทุกระดับฟากที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ นอกจากฝั่งที่อยู่คนละขั้วการเมืองแล้ว มีคนที่ยังกังวลกับการรับมือกับโรคร้ายขนาดปิดประเทศ จำนวนคนติดเชื้อแตะหลัก 4 หลัก คนเสียชีวิตยังอยู่ 2 หลักมาร่วม ๆ 2 เดือนและไม่มีทีท่าลดลงด้วย
ถ้าเปิดให้ต่างชาติเข้ามาอีก ยิ่งไม่เพิ่มความหนักหนาของสถานการณ์ขึ้นไปอีกหรือ

เดิมพันเปิดประเทศใน 120 วันนี้ แม้จะเสี่ยงสูง แต่ดูแล้วไม่มีอะไรเสีย.

———-
ชายธง