ทั้งนี้ จีน กับกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ได้แก่ ฟิจิ ซามัว ตองกา คิริบาส ปาปัวนิวกินี วานูอาตู หมู่เกาะโซโลมอน นีอูเอ และวานูอาตู เห็นชอบร่วมกันในหลักการ ระหว่างการประชุมร่วมกัน ที่กรุงซูวา เมืองหลวงของฟิจิ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับกรอบความร่วมมือ 5 ด้าน ครอบคลุมในมิติรวมถึง การฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือเพื่อพัฒนาการเกษตร และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตามแนวทางแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง แต่ที่น่าสังเกต คือไม่มีเรื่องของความมั่นคง
นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรมว.การต่างประเทศของจีน กล่าวถึง “ความสงสัยและความวิตกกังวล” ของกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก เกี่ยวกับ “วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แท้จริง” ของรัฐบาลปักกิ่ง เจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของจีน กล่าวว่า ทุกฝ่ายไม่ควรมีความกังวล “มากเกินไป” เพราะจีนมีส่วนร่วมและสนับสนุนการพัฒนาแบบเดียวกันนี้ ทั้งในแอฟริกา เอเชีย และแคริบเบียน
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีแฟรงก์ ไบนิมารามา ผู้นำ และรมว.การต่างประเทศของฟิจิ ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ กล่าวว่า กลุ่มประเทศในภูมิภาค “ต้องมีฉันทามติร่วมกัน” ก่อนลงนามข้อตกลงใหม่ในรูปแบบใดก็ตาม แม้ก่อนการประชุม รัฐบาลปักกิ่งเผยแพร่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่า จีนและกลุ่มประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิกถือเป็น “พี่น้องกัน”
ส่วนสหรัฐ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แม้ไม่แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่น่าจะโล่งใจไม่น้อย ต่อการที่ข้อตกลงยังไม่ได้รับการลงนาม ทั้งสามประเทศยังคงมีความเคลือบแคลงสงสัยอย่างมากต่อความพยายามของรัฐบาลปักกิ่ง เนื่องจากไม่มีการเจาะจงประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้าเสรี ความร่วมมือทางการเมือง และการส่งเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์
ปัจจุบัน จีนเป็น 1 ใน 18 ประเทศคู่เจรจา ขององค์กรการประชุมหมู่เกาะแปซิฟิก ( พีไอเอฟ ) และคาดหวังว่า “วิสัยทัศน์” ของรัฐบาลปักกิ่ง จะได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในญัตติของการหารือ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ ที่ฟิจิ โดยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกของกรอบการเจรจานี้ จะเข้าร่วมประชุมด้วยแน่นอน
อนึ่ง จีนให้ความสนใจกับภูมิภาคแปซิฟิกมานานพอสมควรแล้ว โดยมอบความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการค้า และการทูต อย่างต่อเนื่องรวมเป็นมูลค่ามากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 51,558.75 ล้านบาท ) ตั้งแต่ปี 2549 แต่รูปแบบของเงินที่จัดสรรให้ส่วนใหญ่เป็นไปในรูปของสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
เมื่อวิเคราะห์ในแง่ของประวัติศาสตร์ และมุมมองด้านภูมิศาสตร์การเมืองในปัจจุบัน ภูมิภาคแปซิฟิกมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักในการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์สู้รบยืดเยื้อระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งถือเป็นความขัดแย้งด้านอาวุธครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
หากจีนสามารถเจาะเข้าสู่ภูมิภาคแห่งนี้ได้ ไม่เพียงแต่จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับรัฐบาลปักกิ่ง ในการยกระดับนโยบายปิดล้อมทางการทูตต่อไต้หวันได้เช่นกัน จากการที่กลุ่มประเทศในแถบนี้ส่วนใหญ่ ยังคงมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทเป
อย่างไรก็ตาม การที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยังคงถือว่าภูมิภาคแถบนี้เป็นเสมือน “หลังบ้าน” กลุ่มหมู่เกาะแปซิฟิกจึงกลายเป็นสมรภูมิใหม่ทางรัฐศาสตร์ไปโดยปริยาย และอาจสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญให้กับภูมิภาคแห่งนี้ได้อีกในอนาคต เนื่องจากแม้ความพยายามของจีน ในการจัดตั้งกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคยังไม่สำเร็จ ทว่ามีความเป็นไปได้มาก ที่ทั้งรัฐบาลปักกิ่ง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะมุ่งเน้นการยกระดับความสัมพันธ์กับแต่ละประเทศแถบนี้ ในแบบทวิภาคีแทน.
ภัทราพร ไพบูลย์ศิลป
เครดิตภาพ : REUTERS