แม้สกอร์แค่ 1-0 แต่รูปเกม “ช้างศึก 23 ปี” สู้ “เกาหลีใต้” ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

ถ้าตัวครบ จะดีกว่านี้ไหม?…ก็คงดี แต่ไม่ดีแบบพลิกโฉม

โสมขาว ครองเกมอย่างสิ้นเชิง ประตูในครึ่งแรก กำหนดทิศทางครึ่งหลัง พวกเขาได้ประตูที่ต้องการ นำไปสู่ชัยชนะ รอให้ไทยเปิดหน้าแลก ถ้าไม่แลก ก็เน้นครองบอล มีช่องค่อยแทง

ส่วน ช้างศึก ไม่ใช่ไม่อยากดิ้น แต่รู้ตัวว่า ดิ้นแล้วโดน ถ้าโดนอีกก็จบ ยื้อๆ ให้ความห่างแค่ 1 ลูก รอจังหวะฟ้าประทาน (แบบที่เวียดนามทำได้ และถนัดในเรื่องนี้)

ฟ้าประทาน มาซะด้วย เสียดายที่เราเก็บเกี่ยวไม่ได้ ที่ อชิตพล คีรีรมย์ ยิงเหน่งๆ ติดเซฟ

ทีมชาติไทย ชุด 23 ปี ตกรอบ กลายเป็นความผิดหวัง 2 รายการติด ในเวลาไม่ถึง 20 วัน นับจากซีเกมส์

เมื่อปลายทางล้มเหลว ก็ต้องย้อนไปที่การเตรียมจัดการ การวิ่งวุ่นปรับคิวบอลภายในของไทยเพื่อทองซีเกมส์ ที่ถูกยกเป็นวาระว่าจะ “เอาให้ได้” (ถึงขนาดสลับขั้วแม่ทัพ) ก่อคลื่นกระทบ ถึงการเตรียมทีม ชิงแชมป์เอเชีย

ทองซีเกมส์ ได้มาก็ดี มีความสุข คนไทยยกย่อง ชื่นชอบ แต่ด้วยบริบทอื่นก็ต้องคิดประกอบ

ตามโปรแกรมเดิม แทนที่จะมีเวลาราว 2-3 สัปดาห์ ให้ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ซ้อมทีม ซ้อมแทคติก เอาให้ชัดเจน พุ่งเป้าไปเลย กลับต้องไปรอซีเกมส์จบ รอบอลรีโว่ลีกคัพที่เลื่อนออกมาเตะจบ

ทองซีเกมส์ก็จะเอา, บอลเอเชียก็จะเข้ารอบ สุดท้ายพลาดหมด

ความพยายามที่ดี และต้องยกย่อง กับการวิ่งเต้นดึงแข้งต่างชาติมาเสริมทีม (แม้จะงงกับ ยานนิค นาสส์บอม ชั้นไม่ถึง เล่นได้แค่ 2 นัด ต้องไปสอบ แล้วจะเรียกให้เสียโควตาทำไม) แต่ไม่ทำให้ถึงฝั่งฝัน

อันที่จริง สถานการณ์ทั้งหลายทั้งปวง เกือบจะพลิกโลก พลิกสถานการณ์ ด้วยจังหวะเดียวที่ อชิตพล หลุดไปยิงเหน่งๆ ถ้าเข้าไป 1-1 เหลือราว 10 นาที มีโอกาสยื้อจบตรงนี้ แล้วเข้ารอบ

กระนั้นก็ตาม ไม่ได้ว่านักเตะ เพราะเป็นแค่ส่วนปลายของภูเขาน้ำแข็ง ที่มีฐานรากใต้น้ำที่ปัจจัยต่างๆ

บางทีมันก็เหมือนตีเทนนิสติดขอบเนต อยู่ที่ลูกจะพลิกไปลงด้านไหน

เมื่อเก็บโอกาสเดียวที่อาจจะมาเปลี่ยนผลงานโดยรวมทั้งหมดไม่ได้

และเมื่อผลสอบวางเกณฑ์ชัดเจน (จะเอา) ทองซีเกมส์ และเข้ารอบบอลเอเชีย

ทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ ก็ต้องทำใจยอมรับกับความผิดพลาด และความล้มเหลว.

*** วุฒินล ***