กับสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ เงินแต่ละบาทกว่าจะหาได้ ไม่ใช่ง่ายเลย!

ยิ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าแล้วด้วย กว่าจะขายของได้ กำไรก็นิดหน่อยก็ดีใจแล้ว

ขณะที่บางคน บางร้าน บางเจ้า ขายขาดทุนจนต้องเลิกขายก็มีให้เห็น

สัปดาห์นี้ “เสือสมุทร” มีเรื่องราวของแม่ค้าทุเรียนไปไหว้ศาลเจ้า แต่เกิดลืมเงินกว่าครึ่งแสนไว้ โชคดีพลเมืองดีเก็บไว้ให้

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อมีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินของผู้ที่มากราบไหว้สักการะ ศาลเจ้าพ่อผาแดง ที่ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 12 ถนนสายหล่มสัก-ชุมแพ ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวได้ พร้อมทั้งประกาศตามหาเจ้าของ กระทั่งเจ้าของกระเป๋าได้เดินทางมารับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เสือสมุทร” ปรี่ไปไปที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 3 ต.ปากดุก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของพลเมืองดีที่เก็บกระเป๋าได้

นางสุวิทย์ บุตรแก้ว อายุ 62 ปี เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงสายๆ ของวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนและลูกๆ หลานๆ ได้ขึ้นไปกราบไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อผาแดง ที่อยู่บนเขาน้ำหนาว ซึ่งตนและครอบครัวให้ความนับถือเป็นอย่างมาก เมื่อไปถึงปรากฏว่า มีเพียงผู้ที่ดูแลศาลอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ตนจึงเดินไปที่รูปปั้นเจ้าพ่อผาแดง เพื่อจุดธูปเทียนสักการะ แต่ระหว่างนั้นหลานชายที่ไปด้วย ได้มองเห็นกระเป๋าแบบสะพายข้างสีน้ำตาล วางอยู่หน้ากระถางธูป ตนจึงหยิบมาดูพร้อมกับเรียกผู้ดูแลศาลมาร่วมตรวจสอบ

เมื่อเปิดออกดูก็พบว่า มีเงินซึ่งเป็นทั้งธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท 500 บาท 100 บาท และ 20 บาท เมื่อนับดูก็พบว่ามีเงินจำนวน 5 หมื่นกว่าบาท พร้อมกันนี้ก็มีเอกสารต่างๆ เช่น บัตรประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร จึงได้ให้ลูกสาวถ่ายรูปไว้ จากนั้นก็นำไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาเจ้าของ

เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้มีรถคันหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้มีผู้ชายและผู้หญิงออกมาจากรถ และวิ่งขึ้นมาดูที่บริเวณกระถางธูป ด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก ตนจึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นเจ้าของ จึงได้พูดคุยสอบถามตรวจสอบ กระทั่งมั่นใจว่าเป็นเจ้าของจริง จึงได้มอบคืนให้ไป

“เมื่อตนเห็นกระเป๋าและเงินจำนวนมาก จึงได้รีบให้ลูกสาวโพสต์ประกาศหาเจ้าของ เพราะเข้าใจว่า เจ้าของจะต้องเสียใจเป็นอย่างมาก และอาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของเขาก็ได้ ที่ผ่านมาตนก็เคยเก็บสิ่งของมีค่าได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเงินสด กระเป๋าเงิน สร้อยคอทองคำ ซึ่งตนก็ได้ติดตามคืนเจ้าของได้ทุกครั้ง ตนสอนลูกๆ อยู่เสมอว่า สิ่งของที่ไม่ใช่ของเรา ไม่ควรที่จะเอามาเป็นเจ้าของ เพราะอาจจะทำให้เขาเดือดร้อนได้ และก็รู้สึกดีใจที่เจ้าของได้กระเป๋ากลับคืนไป” นางสุวิทย์ บอกเล่าถึงความตั้งใจทำดี

น.ส.มุกดา พานำมา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายทุเรียน เจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าว บอกว่า ในวันดังกล่าวตนและญาติๆ ได้ขับรถไปถวายหัวหมูที่อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จากนั้นก็พากันขับรถขึ้นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อผาแดง ที่อยู่ริมถนนสายหล่มสัก-ชุมแพ ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เมื่อไปถึงก็ได้กราบไหว้สักการบูชา จังหวะนั้นหลานจะให้อุ้ม ตนจึงเอากระเป๋าวางไว้ตรงกระถางธูป เมื่อทุกคนไหว้เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ โดยตนไม่รู้ว่าได้ลืมกระเป๋าไว้ตรงนั้น ซึ่งภายในกระเป๋ามีเงินที่ได้จากขายทุเรียน และเตรียมที่จะนำไปซื้อทุเรียนมาขายต่อ จำนวน 5 หมื่นกว่าบาท

เมื่อตนกลับมาที่อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง ซึ่งระยะทางห่างกันประมาณ 25 กิโลเมตร เพื่อกลับมาเอาหัวหมูที่ได้ไหว้พ่อขุนผาเมืองไว้ ระหว่างนั้นตนก็ยังไม่รู้ตัวว่าลืมกระเป๋าเงิน กระทั่งเก็บหัวหมูและสิ่งของต่างๆ เสร็จ ก็พากันขึ้นรถ และเตรียมที่จะไปกินขนมจีนหล่มเก่า ตนจึงได้ควานหากระเป๋าสะพาย ก็ไม่พบแล้ว ตนและสามีตกใจเป็นอย่างมาก เพราะมั่นใจว่าลืมไว้ที่ศาลเจ้าพ่อผาแดง จึงได้รีบขับรถกลับไปอีกครั้ง ระหว่างนั้นตนก็บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ขอให้กระเป๋าอยู่ที่เดิม แต่อีกใจก็ทำใจไว้แล้ว เพราะขณะที่ตนกลับลงมากันนั้น ก็ได้มีรถยนต์ 2-3 คัน ขับขึ้นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อผาแดง เช่นเดียวกัน

เมื่อตนและสามีไปถึงก็รีบวิ่งขึ้นไปที่ศาลตรงจุดที่วางกระเป๋า แต่ปรากฏว่าไม่พบกระเป๋าแล้ว ตนและสามีถึงกับเข่าอ่อน เพราะคิดว่าคงมีคนเอาไปแล้ว แต่ก็มีป้าที่มาไหว้ศาลได้เดินมาที่ตน พร้อมกับถามว่าหาอะไร ตนจึงบอกว่าหากระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ป้าคนดังกล่าวจึงได้นำออกมาให้ ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และเงินก็อยู่ครบทุกบาททุกสตางค์

“เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินเก็บก้อนเดียวในชีวิต ใช้ในการนำไปลงทุนซื้อทุเรียนมาขาย ซึ่งถ้าหากหายไป ตนจะเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีเงินลงทุนแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตนขอขอบคุณคุณป้าและครอบครัวที่ได้เก็บกระเป๋าเงินไว้ให้ในครั้งนี้” แม่ค้าขายทุเรียน เล่าด้วยความดีใจ

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวการทำความดีที่น่าชื่นชมยกย่อง.
……………………………………..
คอลัมน์ “คนดีของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ข้อมูล-ภาพ “กิตติ ตันติมาลา” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.เพชรบูรณ์
อ่านเรื่องราว “คนดีของสังคม” ได้ที่นี่..