ก่อนหน้านี้ ก็มีคนรวยจาก “เสรีกัญชา” มาเป็นปี ๆ แล้ว เป็นเครือข่ายที่รู้ล่วงหน้า ตั้งวิสาหกิจชุมชนจับมือสถานศึกษาสักแห่งอ้างปลูกเพื่อการวิจัย (ทางการแพทย์) แต่ปลูกเป็นร้อย ๆ พัน ๆ ไร่ แค่ขาย “ใบอย่างเดียว” ก็ตก กก.ละเป็นหมื่น ๆ รวยปลิ้นรอบหนึ่งแล้ว พอ “ปล่อยผีกัญชาเสรี” 9 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา ต้นกัญชาถึงสูงปรี๊ดแบบเสกได้ ขาย “ต้นกล้า” เฉียดร้อย สูงหน่อยเมตรสองเมตรเป็นพัน ๆ โกยปลิ้นอีกรอบ แค่คนแห่ลงทะเบียนปลูกก็เป็น 10 ล้านแล้วและคงพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “รวยพันล้านหมื่นล้าน” ขนาดไหนลองคิดดู แต่ชาวบ้านปลูกต้นเดียวถูกจับเข้าคุก

บอกเลยนะ ไม่ต่อต้านที่จะเอาธุรกิจสีเทา บ่อน ซ่อง หวย ที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ขึ้นมาอยู่ “บนดิน” ให้หมด แล้วเก็บภาษีแบบชาติที่เจริญแล้ว คนเป็นล้าน ๆ ใน “ธุรกิจใต้ดิน” จะได้เข้าถึงสวัสดิการรัฐและไม่ถูกรีดไถทารุณกรรมอีก รัฐบาลทักษิณ ก็เคยเอาหวย 2 ตัว 3 ตัวมาอยู่บนดิน (ที่รัฐบาลนี้จะเอาไปทำบ้าง) แล้วเอาเงินมาทำโครงการ “1 อำเภอ 1 ทุน” ส่งเยาวชนไปเรียนปริญญาตรีเมืองนอก แต่โครงการนี้ถูกทำลาย หลัง คสช.ยึดอำนาจ ปล่อยหวยใต้ดินเกิด…ตามเดิม

กลับมาที่ กัญชาเสรี เสรีกัญชา อย่างที่รู้ เป็นนโยบายพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้ มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เป็นหัวหน้าพรรค ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 62 โน่น ตอนแรกเน้นหนักเพื่อการแพทย์ หลัง ๆ เน้นหนักเป็นพืชเศรษฐกิจ ปลูกส่งออกหวังรายได้เข้าประเทศมหาศาล ประมาณว่า ไทยเรามีกัญชาสายพันธุ์ดีที่โลกต้องการนั่นล่ะ

แต่ที่กลายเป็นปมร้อนถูกจับ “ขึงพืด” ตอนนี้ เพราะบรรดาหมอใหญ่ เช่น นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศ ไทย ต่างออกมาเตือนถึงความไม่รอบคอบปล่อยผี กัญชาเสรีแบบไม่มี กฎหมายลูกรองรับ ใครใคร่เสพเสพ ใครใคร่ปลูกปลูก ใครก่อความรำคาญนักก็ไปแจ้งตำรวจก็แค่นั้น

เรื่องออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทกับเยาวชน (หรือคนที่แพ้) นั้นมากมายเพราะขายกันหลากรูปแบบ ทั้งใส่ในอาหาร เครื่องดื่ม ขนมนมเนย สารพัด โดยไม่ได้ระบุว่า มี “แคนนาบินอยด์” ที่ว่าอันตรายนั้นผสมอยู่เท่าไหร่ แต่ละสายพันธุ์ก็มีตัวนี้ไม่เท่ากันอีก ไม่นับที่เสพเพียว ๆ ทั้งใบและช่อดอก เสพไปเพลิน ๆ จะทำให้ใจสั่น สมาธิสั้น ท้องเสีย อาเจียน ความคิดเชื่องช้า กินไปมาก ๆ จะมีผลเสียต่อปอดรุนแรง ไอคิวต่ำ สมองฝ่อ ซึมเศร้า เหม่อลอย หลอน ช็อก…….

หันมาดูเหตุผลที่ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์เทียบความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ กัญชาเสรีที่ “รัฐโคโลราโด สหรัฐ” ที่มีศึกษาไว้ว่า เมื่อรัฐเก็บภาษีได้ 1 ดอลลาร์จากการขายกัญชา ชาวโคโลราโดจะต้องเสียเงิน 4.5 ดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากอาการเจ็บป่วยทั้งโดยตรงและโดยอ้อมของกัญชา รวมทั้งความสูญเสียจากการที่เด็กนักเรียนมัธยมต้องออกจากระบบการศึกษา และนำไปสู่การเสพติดยาชนิดอื่น ๆ ด้วย (เบญญา นันทขว้าง ลูกสาวนักเขียนดัง สุวรรณี สุคนธา ก็บอกว่า น้องชาย น้ำพุ ที่ถูกเอามาสร้างเป็นหนังดังในอดีต ก็เริ่มจากสูบกัญชา จนที่สุดช็อกตายเพราะเสพเฮโรอีนเกินขนาด) ขนาดสหรัฐยังมีปัญหาหนักขนาดนี้แล้วไทยจะขนาดไหน ที่บรรดาคุณหมอใหญ่ทั้งหลายกับพ่อแม่ผู้ปกครองจะออกมาแสดงความห่วงใยเยาวชนลูกหลานจึงไม่แปลก เงียบอยู่สิแปลกเลย

ออกมาช้าเกินด้วยซ้ำ

เพราะเอาเข้าจริง ความรู้เกี่ยวกับ 3 ก. “กัญชา กัญชง กระท่อม” ยังไม่มีเลย มีแต่ที่รัฐยัดเยียดด้านดีโคตร ๆ ให้เห็น ขนาดหม่อมปลื้ม ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เผลอไปห่วงใยวิจารณ์หนัก ๆ เข้าเรื่องมอมเมาเยาวชนใน Voice ทีวี ยังต้องลบคลิปโพสต์ขอโทษ เพราะมีการสั่ง ส.ส.ทั่วประเทศ รุมฟ้องหม่อมปลื้มทันที แทนที่จะเปิดใจกว้างรับฟังความเห็นนโยบายที่ “ล่อแหลม” นี้

กลับจ้องแต่จะปิดปากกัน มันใช่หรือ? มาจากการเลือกตั้งแท้ ๆ แต่จมอยู่กับระบอบประยุทธ์ที่อำนาจนิยมเต็มร้อยจนเคยชิน ใครวิจารณ์พูดถึงไม่ได้ ถูกมองเป็นพวกฝักใฝ่ตรงข้ามทุกเม็ด

ปล่อยผีแบบเร่งรีบไม่รอบคอบ ทั้งที่มีเวลาเตรียมตัวเกือบ 3 ปี เพราะใกล้เลือกตั้งจะเอาไปหาเสียงว่าทำได้จริงไม่สนสี่สนแปดอะไรทั้งสิ้นหรือ อย่าให้ใครมาชี้หน้าว่าที่สุด กัญชาเสรี ก็แค่นโยบาย ปล่อยผีนายทุนเครือข่ายได้กินรวบเสรี เท่านั้นเอง

มันบาปมหันต์หลายต่อนะ…ไม่กลัวกันบ้างหรือไร?!?

————————-
ดาวประกายพรึก