เตือนตัวเอง ว่าเก่งได้ แต่อย่ากร่าง…รู้รับฟัง ไม่ใช่พล่าม เป็นน้ำไหล…อย่าหลงตน ให้คน เขาเหนื่อยใจ…เจอบันได ถ้าขึ้นได้ ต้องลงเป็น”

นับวันข่าวคราวเกี่ยวกับความโรคจิต ความวิตถาร ภายในสังคมไทยเพิ่มขึ้นสูงมาก หายไปไม่นานก็เกิดข่าวแบบนี้อีก แถมบางช่วงมีข่าวแนวโรคจิตแอบถ่ายต่อเนื่องแทบทุกวันก็มี และส่วนใหญ่ตามที่สาธารณะ มักจะเป็นจุดที่ “เจ้าโรคจิต” ออกล่าเหยื่อที่เป็น “ผู้หญิง” ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำของทางราชการ

เช่นเดียวกับเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวการจับกุมผู้ชายแอบถ่ายก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อผู้เสียหายคือ น.ส.ฟ้า กับ น.ส.ฝน เจ้าหน้าที่ประจำเทศบาลตำบลหนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองกุงศรี ว่าถูกเจ้าโรคจิตตามเข้ามาอัดคลิปแอบถ่ายตอนกำลังทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำของสำนักงาน

พฤติการณ์ของเจ้าโรคจิตตามคำบอกเล่าของ น.ส.ฟ้า คือ เธอเป็นคนล่าสุดที่ถูกแอบถ่ายคลิป ตอนกำลังกำลังทำธุระอยู่ สังเกตเห็นว่าห้องน้ำหญิงที่อยู่ด้านข้างๆ ปิดประตูไว้ คล้ายมีคนอื่นกำลังเข้าไปทำกิจธุระเหมือนกัน พอนั่งลงทำกิจส่วนตัว เหรียญบาทที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ตกออกมาและกลิ้งไปอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

เมื่อก้มลงเก็บเหรียญ ช่วงจังหวะลุกขึ้นได้แหงนคอชำเลืองขึ้นไปด้านบน ทำให้เห็นมือของเจ้าโรคจิตที่กำลังถือสมาร์ทโฟน เกาะและโผล่อยู่บนขอบผนังกั้นห้อง ด้วยความตกใจจึงร้องตะโกนว่า “คนร้ายๆ ช่วยด้วยๆ” และรีบวิ่งออกมาเรียกให้เพื่อนพนักงานช่วยกันปิดล้อมห้องน้ำหญิงนี้ไว้ ทำให้ทั้งหมดช่วยกันลากคอ “เจ้าโรคจิต” ออกมาได้

และตามคาดผู้ต้องหาเป็น “ผู้ชายวัยรุ่นหัวทอง” พร้อมหลักฐานในโทรศัพท์มือถือ ที่สำคัญไม่ใช่วัยรุ่นเที่ยวเตร่ไปวันๆ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ส่งของในบริษัทเอกชนชื่อดังด้วย เจ้าตัวยอมจำนนและรับสารภาพอ้างว่า “แค่อัดคลิปไว้ดูเล่นแก้เซ็งเฉยๆ ไม่ได้เอาไปเผยแพร่หรือส่งต่อให้ใครที่ไหน” ก่อนที่ตำรวจจะสั่งปรับแล้วลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ก่อนปล่อยตัวไป แต่ถ้าผู้เสียหายติดใจก็สามารถไปฟ้องแพ่งได้อีก

แนวทางสืบสวนพบว่า โรคจิตรายนี้เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน ก็แอบเข้ามาถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่เทศบาลหญิงคนหนึ่งไปแล้ว แต่มันไหวตัวทันหนีไปได้ ซึ่งพนักงานหญิงที่ถูกอัดคลิปครั้งนั้นก็ได้บอกเตือนให้พนักงานหญิงระวังตัว ก่อนที่มันจะย่ามใจกลับมาอีก

“หนูอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย มีบทลงโทษสูงสุดเพราะจะได้สำนึกผิด ไม่ไปก่อเหตุแอบถ่ายคลิปผู้หญิงในห้องน้ำอีก เพราะหากปล่อยตัวไปอย่างง่ายดาย หรือไปก่อเหตุอีก หรือนำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียล ก็จะสร้างความอับอายให้กับคนที่ถูกแอบถ่ายอย่างมาก” เสียงจาก น.ส.ฟ้า

ด้าน น.ส.ฝน เหยื่อความโรคจิตอีกราย ก็ออกตอกย้ำถึงความรู้สึกตามประสาผู้ตกเป็นเหยื่อ ว่า ตำรวจแจ้งข้อหา ทำให้ผู้อื่นอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ก่อนที่จะเปรียบเทียบปรับ 3,800 บาท แล้วก็ปล่อยตัวผู้ต้องหากลับไป แต่ความจริงอยากให้ลงโทษให้มากกว่านี้ ไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างและไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีก การเปรียบเทียบปรับแล้วก็ปล่อยตัวไปดังกล่าว ไม่ทำให้ผู้ต้องหาหลาบจำแน่นอน ทางกลุ่มผู้หญิงที่เสียหายต้องถูกแอบถ่ายคลิป รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

คดีนี้ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการเปรียบเทียบปรับ โดยแจ้งข้อกล่าวหาเป็น คดีลหุโทษ มาตรา 397 ตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เมื่อเปรียบเทียบปรับแล้วก็ไม่ต้องส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ และไม่ต้องส่งฟ้องศาลด้วย เนื่องจากถือว่าเป็นคดีที่มีความผิดไม่ใหญ่หลวง แต่รู้หรือไม่ว่าการเสียค่าปรับเล็กๆ น้อยๆ นี้นั้น ส่งผลให้ “พวกโรคจิต” ไม่เกรงกลัวกฎหมายและกล้าก่อเหตุมากขึ้น เพราะผลตอบแทนที่จะได้กลับมาหากนำคลิปไปขายในเว็บลามก มูลค่าของคลิปนั้น..มหาศาลมาก.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

ความร่วมมือ

พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จัดทำโครงการอบรมอาสาสมัครต่อต้านยาเสพติด ปี 2565 จำนวน 3 แสนบาท จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ผ่านนายวิศรุต ปู่เพ็ง สมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดขอนแก่น เขต 2 อำเภอชุมแพ และตัวแทนจากทาง อบจ.ขก. เพื่อนำประชาชนในพื้นที่ เข้ารับการอบรมให้มีความรู้ เพิ่มทักษะในการช่วยเหลือเจ้าพนักงานตำรวจ ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อยและร่วมแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งถือเป็นการประสานความร่วมมือกันระหว่างท้องถิ่นกับทางสถานีตำรวจภูธรชุมแพ เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว

มอบน้ำดื่ม
บริษัท ชินราช ซี เอ็น อาร์ ทรานสปอร์ต จำกัด นำโดย คุณประชิด ชินราช ประธานสตรี จ.ระยอง, คุณสัมฤทธิ์ ชินราช ประธานบริษัท ชินราช ซี เอ็น อาร์ ทรานสปอร์ต จำกัด, คุณสราวุธ ชินราช ประธาน กต.ตร.สภ.ปากน้ำประแสร์, กรรมการหอการค้า จ.ระยอง, ได้ร่วมกันมอบน้ำดื่มจำนวน 600 ขวด ให้กับ พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ ภูรินนท์อนันต์ ผกก.สภ.แก่งหางแมว, เพื่อนำไปมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เพื่อนำไว้บริการประชาชนและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด

แจ้งหายผ่านไลน์
พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้มอบหมายให้ สภ.ชุมแพ เป็นสถานีตำรวจนำร่องของจังหวัดขอนแก่น เปิดรับแจ้งเอกสารหายผ่านระบบแอปพิเคชั่นไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของ ตร.ในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในองค์กร ซึ่งในขณะนี้ พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการได้ดำเนินการจนสามารถเปิดนำร่องให้ประชาชนสามารถแอดไลน์เพิ่มเพื่อนเข้ามา เพื่อเเจ้งเอกสารหายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ ได้เป็นที่เรียบร้อย เริ่มมีประชาชนทยอยเข้ามาใช้บริการจริง  สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในการให้บริการประชาชน


คอลัมน์     :    สน.รอตรวจ

โดย          :    บิ๊กสลีป