คำว่า Passion นั้น ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดในการหล่อเลี้ยงการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เป็นขุมพลังหลักในการทำให้มนุษย์อยากลืมตาตื่นในทุก ๆ วันของชีวิต

ในแวดวงกีฬาก็ไม่ต่าง นักกีฬามากมายที่ใช้ศักยภาพของร่างกายชนิดถึงขีดสุดเพื่อความเป็นเลิศ จนบางครั้งก็ส่งผลกระทบเป็นผลพวงย้อนคืนมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

เหตุการณ์ที่ อนิตา อัลวาเรซ นักระบำใต้น้ำชาวอเมริกัน เกิดหมดสติใต้น้ำ ในการแข่งขันรอบคัดเลือกศึกชิงแชมป์โลกที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลายเป็นข่าวใหญ่ในทุกสื่อกีฬาทั่วโลก เดชะบุญที่ อันเดรีย ฟูเอนเตส โค้ชชาวสเปน พุ่งลงน้ำไปดึงตัวลูกศิษย์ของเธอขึ้นฝั่งได้ทันท่วงที

หลังเอาตัวเธอขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว โค้ช ฟูเอนเตส บอกว่า อัลวาเรซ ไม่หายใจอยู่ราว 2 นาที ก่อนจะฟื้นคืนสติในห้องพยาบาล ในเวลาต่อมา ผลการตรวจร่างกายของเธอโดยทีมแพทย์ของทีมชาติสหรัฐ ไม่พบความผิดปกติใด ๆ

ตัวของ อัลวาเรซ เอง เธอก็ไม่ได้รู้สึกวิตกอะไร แถมยังบอกว่าจะลงแข่งในประเภททีมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วย ก่อนจะถูกฝ่ายจัดติดเบรก เพราะมันยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับร่างกายของเธอ

และที่น่าตกใจยิ่งกว่าเดิมคือ อัลวาเรซ เคยหมดสติใต้น้ำแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในการแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ที่บาร์เซโลนา เมื่อปี 2021 และเป็น ฟูเอนเตส โค้ชของเธอที่พุ่งลงน้ำไปดึงร่างของเธอขึ้นมาเช่นกัน

แม้จะมีการระบุว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในกีฬาชนืดนี้ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่สำหรับ อัลวาเรซ นี่คือครั้งที่ 2 แล้วที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเธอ และมันน่าจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง ดังนั้น การตรวจอย่างละเอียดจำเป็นต้องเกิดขึ้น และสุดท้ายเธอจะกลับมาแข่งได้หรือไม่ได้ ก็เป็นสิ่งที่เธอจำเป็นต้องยอมรับ

เพราะสุดท้าย สมมติว่าเธอเสี่ยงกลับมาแข่งแล้วหมดสติใต้น้ำอีก มันไม่มีใครการันตีได้ว่าความช่วยเหลือจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา เกิดมันช้าไปสักนาทีครึ่งนาที สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด อาจจะเกิดขึ้น

มองมุมไหนก็ไม่คุ้มเสี่ยงเลยครับ…

ผยองเดช