หลังจากที่เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยความปราชัยต่อ ไบรท์ตัน คาบ้าน 1-2 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า เอริค เทน ฮาก และทีมงาน รวมทั้งผู้บริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะตระหนักรู้แล้วนะครับว่า ขุมกำลังนักเตะของผีแดงยังด้อยคุณภาพเกินกว่าจะไปต่อกรกับบรรดาเสื้อสิงห์กระทิงแรดในพรีเมียร์ลีกได้ไหว

            แม้แต่เด็กที่เพิ่งหัดดูบอลก็น่าจะรู้มานานเป็นแรมปีแล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ยังมีปัญหาเยอะมาก และต้องการนักเตะคุณภาพในตำแหน่งแบ๊กขวา, มิดฟิลด์ตัวรับ รวมทั้งกองหน้าตัวเป้าเข้ามาเสริมแกร่งแบบด่วน ๆ

            ทว่าหลังจากตลาดนักเตะเปิดทำการมานาน 2 เดือนเศษ ปัญหาข้างต้นกลับยังไม่ได้รับการแก้ไขแม้แต่น้อย

  นักเตะใหม่ที่ ริชาร์ด อาร์โนลด์ ผู้นั่งเก้าอี้ซีอีโอ และจอห์น เมอร์เทอห์ ผอ.ฟุตบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปดึงเข้ามากลับกลายเป็นแบ๊กซ้ายอย่าง ไตเรลล์ มาลาเซีย, มิดฟิลด์ตัวรุกอย่าง คริสเตียน อีริคเซน และเซนเตอร์ฮาล์ฟอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งเรียกได้ว่า เกาไม่ถูกที่คันเท่าไรนัก

            จริงอยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พยายามจะแก้ปัญหาในแดนกลางด้วยการไล่ล่า เฟรงดี เดอ ยอง มาตลอดทั้งซัมเมอร์ แต่ในเมื่อนักเตะยืนกรานว่าไม่อยากย้ายหนี บาร์เซโลนา พวกเขากก็ควรจะมูฟออนไปหาเป้าหมายรายอื่นตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เอาแต่ร้องเพลงรอจนเวลาล่วงเลยเข้าสู่ซีซั่นใหม่แบบนี้

มาร์โก อาร์เนาโตวิช หัวหอกตัวเก๋า โบโลญญา

            ครั้นเมื่อความจริงปรากฏออกมา (อีกครั้ง) ว่า คู่หูคู่ฮาอย่าง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และเฟร็ด น่าจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในตำแหน่งห้องเครื่อง แถมตลาดนักเตะก็กำลังจะปิดตัวลงในเวลาอีกเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน เราจึงใกล้จะได้เห็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “แพนิค บายอิง” หรือ “การกว้านซื้อนักเตะด้วยความตื่นตระหนก” ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

            ล่าสุดมีรายงานว่า อสูรแดง กำลังเดินหน้าทาบทาม อาเดรียง ราบิโอต์ ของ ยูเวนตุส, กีโด โรดริเกซ ของ รีล เบติส รวมไปถึง เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ของ ลาซิโอ มาแก้ปัญหาในแผงกลาง ทั้งที่รายชื่อเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์ของ เทน ฮาก มาก่อนเลยด้วยซ้ำ

            แต่ที่น่าระเบิดเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยันยิ่งไปกว่านั้นก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ดันทะลึ่งไปขอซื้อ มาร์โก อาร์เนาโตวิช หัวหอกวัย 33 ปีของ โบโลญญา มาแก้ขัด ซึ่งหากว่ากันตามตรงโดยไม่ได้มีเจตนาจะดูแคลนฝีเท้าของ อาร์เนาโตวิช ก็คือการมองลงมาที่นักเตะเกรด B อย่างนี้ไม่ใช่วิสัยของทีมใหญ่ที่ปักเป้าหมายเอาไว้ที่การลุ้นแชมป์แม้แต่น้อย

การตระหนกซื้อที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการทำงานอันห่วยแตกไร้ซึ่งวิสัยทัศน์ของบรรดาผู้บริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างชัดเจน และคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรหาก เรด เดวิลส์ จะยังคงงมโข่งต่อไปอีกหลายปีดีดักภายใต้การบริหารงานของบอร์ดชุดนี้รวมทั้งเจ้าของทีมอย่างคนบ้านเกลเซอร์

แท ยอน