@อีก 2 ชีวิต ของคน”ไทยพุทธ” ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่กลายเป็นเครื่อง”เซ่นสังเวย” ความรุนแรงของ สถานการณ์ การ”ก่อการร้าย”ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการวางระเบิด”แสวงเครื่อง” เจ้าหน้าที่”ทหารพราน” ที่ นำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุ ทั้งหมดคือเหตุการณ์”เดิมๆ” ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบ 18 ปี ก็คงต้องถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตแก้วแท้ ผบ.ทบ. ที่ บอกว่า สถานการณ์ของ”ไฟใต้” ดีขึ้น ดีตรงไหน ดีอย่างไร ช่วย ตอบให้คนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคนไทยทั้งแผ่นดินได้ยินได้ฟังแบบดังๆด้วยนะ….เช่นเดียวกับเวทีการ”พูดคุยสันติสุข” ระหว่างตัวแทนของ”รัฐไทย” ที่นำโดย พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะ”พูดคุยสันติภาพ” กับ นายอานัส อับดุลเราะห์มาน หรือ”หิพนี มะเระ” หรือ”อิหม่านบันนังสตา” ที่เป็นตัวแทนของ”บีอาร์เอ็น” ที่ “เจรจา” มาแล้ว 10 ปี แต่ไม่ได้ทำให้”สถานการณ์” ในพื้นที่ดีขึ้น ล่าสุดการ”เจรจา” เมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม ที่ผ่านมา “บีอาร์เอ็น” นำเอาผู้นำ”จิตวิญญาณ”ของขบวนการมาร่วมประชุมด้วย และข้อเสนอที่ไม่อยู่ใน”เอกสาร” แถลงการณ์ถึงผลการประชุมให้ประชาชนทราบคือ” บีอาร์เอ็น” ยื่นข้อเสนอให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” เปิดไฟเขียว” งดการ”บังคับใช้กฎหมาย” เพื่อให้ “แกนนำ”ของ”บีอาร์เอ็น” จาก ประเทศมาเลเซีย เข้ามา”เสวนา” ทำกิจกรรมกับกลุ่มของ “ซีเอสโอ และ เอ็นจีโอ” ภาคประชาสังคม ในพื้นที่ เพื่อ”สร้างความเข้าใจ”ให้เกิดขึ้น นัยว่าเพื่อความ”ก้าวหน้า” ของขบวนการ”สันติภาพ” ที่เป็น ขบวนการในการดับ”ไฟใต้”….

@เรื่องนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “เห็นดีเห็นงาม” และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบงานด้าน”ความมั่นคง”ของจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิด”ไร้รู้,ไม่รู้” ตาม”ไสตล์” และ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคง ( สมช.) เอาแต่”พยักหน้า” ตามที่ ฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการ สมช.เสนอ ก็เท่ากับเป็นการ”ยกแผ่นดิน”จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน”บีอาร์เอ็น”  เพื่อใช้เป็น” บันได” ขั้นที่ 1 และจะตามมาด้วย “บันได” ขั้นต่อๆไป ตาม”ยุทธศาสาตร์” ที่ “บีอาร์เอ็น” และ องค์กร”เอ็นจีโอ”จาก”ชาติตะวันตก” อย่าง”เจนีวาคอลล์” วางเอาไว้….ซึ่งหากติดตามการ”ขับเคลื่อน”ของ “ปีกทางการเมือง” ในพื้นที่” ก็จะเห็น”ร่องรอย”การ”ขยับขับเคลื่อน”งานด้าน”มวลชน” ด้วยการให้กลุ่มก้อน”ภาคประชาสังคม”ในพื้นที่จัด”กิจกรรม” ทางสังคมเพื่อ” เปิดเวที” เพื่อให้ “แกนนำ” ภาคประชาสังคม คนสำคัญๆ  ได้ขึ้นเวที พบปะประชาชน ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ แต่ ปรากฏว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า  ที่ติดตามความ”เคลื่อนไหว”ของ”ปีกทางการเมือง”ของ”บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่ ไม่”ยินยอม” และใช้วิธีการ”กดดัน” จนสุดท้าย  นายมูฮำหมัด อาลาดี เด็งนิ ประธานสมัชชาภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ และ นายฮาซัน ยามาดีบุ เลขาธิการ สมัชชาฯ ได้เข้าร้องเรียนกับ”คณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชน” หรือ “กสม.” สำนักงานภาคใต้ ให้ “เอาผิด” กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ทำการ”คุกคาม” และ จำกัด”สิทธิเสรีภาพ” นี้คือความ”แยบยล” ของการวางแผนที่มีการ”สอดประสาน” งานด้าน”การเมือง” ที่เป็น”หมากกล” ของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน”บีอาร์เอ็น” ที่ฝ่ายความมั่นคงต้อง”ระมัดระวัง” และต้องทันต่อ”กลเกม”ของ”บีอาร์เอ็น”….

@ส่วนขบวนการแบ่งแยกดินแดน”พูโล 5G “ ที่มี นายคัสตูรี่ มะโกตา  ที่สร้างกองกำลังติดอาวุธขึ้นมาใหม่ และ ใช้วิธีการ”ก่อการร้าย” ในพื้นที่ 3 จังหวัดแบบเดียวกับ”บีอาร์เอ็น” ก็ได้รับ”อานิสงค์” จากการ”พูดคุย” ครั้งนี้ด้วย เพราะมีข่าวว่า “คณะพูดคุย”ของ”รัฐไทย” จะ”ไฟเขียว” ให้ “พูโล” ได้มีการ”พูดคุยสันติสุข” เช่นเดียวกับที่มีการ”พูดคุย”กับ”บีอาร์เอ็น” ….แน่นอน ถ้าเป็น”ข่าว” ที่ออกมา ในอนาคต จะมี ขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่”หมดสภาพ” ไปแล้วจะ”ฟื้นคืนชีพ” อีกหลายขบวนการ และจะยื่นข้อเสนอเพื่อ”พูดคุย” กับ”รัฐไทย”ทุกขบวนการ  เท่ากับว่า “เวทีการพูดคุย” ครั้งนี้ เป็นการ”ชุบชีวิต”ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนทุกขบวนการที่ “ล่มสลาย”ไปแล้วให้มี”อิทธิฤทธิ์” ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเสียหาย ทั้งใน”ยุทธศาสตร์”ของการดับ”ไฟใต้” สูญเสียทั้งเวลา และงบประมาณ กลายเป็นการ”ถอยหลังเข้าคลอง” ครั้งใหญ่ เหมือน”ย้อนยุค”ไปสู่เวทีของการ”รำวงเวียนครก”,,,, เสียดาย”แนวทาง” ที่ พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์  “เสธเมา” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4  อดีตหัวหน้าคณะ”พูดคุย” คนก่อน ที่เป็นเจ้าของ “นโยบาย” คุยกับ”บีอาร์เอ็น์ เพียง กลุ่มเดียว โดยจะไม่”พูดคุย”กับ ขบวนการ”พูโล, และอีก 3-4 ขบวนการที่เป็น”รถเปล่า” หมายถึง”ล่มสลาย”ไปแล้ว นี่กระมั่งที่เขาพูดว่า”ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา”….

@ฮือฮากันเป็นพักๆ จำได้ว่าเมื่อครั้งที่”ไฟไหม้”ซานติก้า ผับ” ที่  กทม. เมื่อปี 2552 มีนักท่องเที่ยวถูก”ไฟคลอก” เสียชีวิต 60 ศพ บาดเจ็บกว่า 200 คน สิงห์มหาดไทย” ออกมา”คำราม” สั่งการให้  ผวจ และ ผบก. ตรวจสถานบันเทิง ร้านขายเหล้า ขายอาหาร ทั้งประเทศ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ไฟไหม้ “เมาท์เท่น บี” ร้านอาหาร ที่แอบเปิดเป็น ผับ เป็น บาร์ มีนักร้อง นักดนตรี มีนักเต้น ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี “ สิงห์มหาดไทย”ก็ เล่นบทเดิม  สั่ง ตรวจสอบ “เอาจริง” ฝ่ายปกครองสั่ง”เด้ง”นายอำเภอ”ฝ่าย ตำรวจสั่ง”เด้ง” 5 เสือ สภ.พลูตาหลวง เจ้าของท้องที่  วันนี้ทุกจังหวัด ทั้ง ตำรวจ ทั้ง ปกครอง “ขมีขมัน” ออกตรวจท้องที่ และ”สั่งปิด” ร้านอาหารที่เปิดเป็น “ผับ”เป็น”บาร์” เพราะไม่มี อนุญาต แต่ เชื่อเถอะ หลังจากนั้นไม่เกิน 2 เดือน “ผับเถื่อน” และ”บาร์เถื่อน” ก็จะกลับมาให้ “บริการ” นักดื่ม นักเที่ยว เหมือนเดิม นี่คือประเทศไทย ที่”กฎหมาย” มีราคาถูก ผู้รักษา”กฎหมาย” และ”นายทุน” สามารถ”ซื้อ-ขาย” กฎหมายได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการ”ซื้อชีวิต”ของประชาชนในราคาถูกๆ เช่นกัน….

@เสียดายที่ 8 ปี ของการเป็น”นายกรัฐมนตรี” ที่ยาวนานที่สุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจาก”กู้เงิน” มากที่สุด” และ”แจกเงิน” มากที่สุด มีโครงการ”คนละครึ่ง” มากที่สุด แต่ไม่ได้ทำการ”ปฏิรูป” ประเทศชาติให้มีผลสำเร็จแม้แต่เรื่องเดียว  โดยเฉพาะเรื่องของการ”ฉ้อราษฎร์ บังหลวง” หรือการ”คอร์รับชั่น” ในหน่วยงานของรัฐ  สถาน”อโคจร” ทุกอย่าง ที่ อยู่ได้และทำผิดกฎหมายทุกวันนี้ เพราะ ข้าราชการ”คอร์รับชั่น” นั่นเอง….และที่ต้องติดตามคือ สถานบันเทิงใน  จ.สงขลา ทั้งที่ อ.หาดใหญ่ และที่ อ.สะเดา  “ผับ”และ”บาร์” เป็นเช่นเดียวกับ”เมาท์เท่น บี” คือ ขออนุญาตเปิดร้านขายอาหาร แต่ขายเหล้า มีดนตรี มีนักร้อง มี นักเต้น ซึ่งเปิดกัน”แพรวพราว” ราวกับ”ดอกเห็ด” ในฤดูฝน ก็คือในท้องที่ของ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ และที่สำคัญอยู่นอก”โชนนิ่ง” เรื่องอย่างนี้ ชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่ต้องรู้ พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.คอหงส์ ยิ่งต้องรู้ เพราะ “ตำรวจ” สายตรวจ “ป้วนเปี้ยน” อยู่ทั้งคืน แต่ทำไมไม่”จัดการ ถ้าไม่มีการ”จ่ายใต้โต๊ะ”….

@ส่วนที่ “ด่านนอก” ต.สำนักขาม อ.สะเดา แย่กว่าที่อื่น เพราะ นอกจากเป็น”ผับเถื่อน”เป็น”บาร์เถื่อน” ที่ไม่มีอนุญาต แล้ว อาคาร สถานที่ ซึ่งเป็น สถานบันเทิง สร้างแบบ”ผิดกฎหมาย” แม้แต่”โรงแรม” ก็เกินครึ่ง ที่”แบบแปลน” ไม่ถูกต้อง และไม่มีใบ”อนุญาต”แต่ไม่เคยมีการใช้”กฎหมาย” เพื่อ”จัดการ” ทำให้มีความถูกต้อง ที่เคยเห็นอยู่ครั้งเดียว สมัยที่ ณรงค์พร ณ พัทลุง เป็น ปลัดจังหวัดสงขลา ที่เคยนำกำลัง เข้าจับกุม สถานบันเทิงที่ผิด”กฎหมาย” หลังจากนั้นไม่เคยเห็น”ฝ่ายปกครอง” ที่มีหน้าที่ ออกใบอนุญาต และเป็น”นายทะเบียน” โรงแรม เข้าไปทำการ”ตรวจสอบ” เปล่า ไม่ใช่กลัว”อิทธิพล”ของ”นายทุน” แต่เพราะได้รับการ”ดูแล” กันเป็น”รายเดือน” ต่างหาก ก็ต้องถามมายัง เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ. สงขลา ว่าจะ”จัดการ” อย่างไรกับ”อาคารผิดกฎหมาย” โรงแรมที่ไม่มี”อนุญาต” และ ร้านอาหารที่เปิด”ผับ”เป็น”บาร์” โดยไม่มี อนุญาต หรือถ้าวันนี้ “ประเทศไทย” เปรียบเป็น”รถยนต์” อย่างที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้เปรียบไว้ “รถยนต์”คันนี้มีเพียง”เกียร์เดียว” คือ”เกียร์ว่าง” อย่างนั้นใช่มั้ย พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา มท. 1  และ ธนาคม จงจิระ อธิบดี กรมการปกครอง ….

@เรื่องของ”การเมือง” เวทีใหญ่ใน”ภาคใต้” ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง คือการ”เคลื่อนไหว”ของพรรค”รวมไทยสร้างชาติ” ที่มี พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เป็น หัวหน้าพรรค ซึ่ง”เดินสาย” มาเปิดตัวที่”ภาคใต้” เป็น”ปฐมบท” ทั้งที่ไม่ใช่เป็น”คนปักษ์ใต้” แต่ก็สร้างความ”ฮือฮา”ได้ไม่น้อย เพราะ”กองเชียร์” และผู้ร่วมอยู่ในพรรคฯ ต่างเป็น”นักการเมือง” ที่เป็น”ลูกหม้อ” ของ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น “พงศ์ศักดิ์ จ่าแก้ว” ซึ่งเป็น”บ้านใหญ่”ของ จ.สุราษฎร์ธานี  จุมพล จุลใส  ( ลูกหมี ) “บ้านใหญ่” จาก จ.ชุมพร “วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” นายก อบจ.พัทลุง และ แม้แต่ “รัดเกล้า สุวรรณคีรี ลูกสาวของ “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” และ “ใครต่อใคร” อีกหลายคน ต่างก็เคยเป็น”องคาพยพ” หนึ่งของ พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีอยู่ในพรรค”รวมไทยสร้างชาติ”ถ้วนหน้า  ที่ยัง “สงวนท่าที่” ไม่ประกาศชัดว่า จะไปร่วมในพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ก็มีเพียง ถาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคม อดีต สส.เขต 6 สงขลา และ อดีต สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่เพียงไปให้”กำลังใจ” ในวันที่มีการ”เปิดตัว”พรรครวมไทยสร้างชาติ….และเป็นที่รู้กันว่า”รวมไทยสร้างชาติ” คือพรรคฯที่เป็น”นั่งร้าน” ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เป็น “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไปของประเทศไทย ดังนั้นการ”เปิดตัว” ของกลุ่มผู้”สนับสนุน” และ”กองเชียร์”ของ “พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” จึงสร้างความ”กังวล” ให้กับ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่น้อย โดยเฉพาะ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “ขุนพล”ของภาคใต้ คงต้อง”คิดหนัก” ในการ กำหนด”ยุทธศาสตร์” การ”ช่วงชิง” พื้นที่ของภาคใต้ เพราะต้อง “ต่อสู้”กับคนที่เคย”อุ้มชู” พรรคประชาธิปัตย์มาแล้วทั้งนั้น ….

@ส่องกล้องไปที่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ จ.ปัตตานี สส.เพียงหนึ่งเดียวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคการเมือง”สีฟ้า” คือ “อัลวาร์ สาและ”ที่วันนี้ ไม่มีที่”หยัดยืน” ในพรรคประชาธิปัตย์ แน่นอนแล้ว เพราะ นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคฯ ได้ประกาศผู้สมัครของ จ.ปัตตานีครบทุกเขตแล้ว วันนี้”อันวา” แม้จะยังเป็น สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แต่”ขาลอย” และคงต้องหาพรรคการเมืองใหม่สังกัด ล่าสุดเห็น “อัลวา” ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับ” พรรคประชาชาติ “ซึ่งหากคาดเดาไม่ผิด เลือกตั้งสมัยหน้า “อัลวา สาและ” น่าจะสวมสีเสื้อ”ประชาชาติ” เพื่อ “ชิงชัย” กับผู้สมัครจาก”ประชาธิปัตย์” ซึ่ง”หมากเกม” การ ดึง “อัลวา” เข้าพรรคประชาชาติ คือ”ฝีมือ”ของ” เศรษฐ์ อัลยุฟรี “ นายก อบจ. ปัตตานี ซึ่งมีการวางตัวให้เป็น”หัวหน้าพรรคประชาชาติ “ในอนาคต หลังการวางมือของ “ วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานสภาฯ และอดีต รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม….ซึ่งสอดคล้องกับการ”รุกหนัก” ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  สส.บัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการ พรรคประชาชาติ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นการ”รุกคืบ” เพื่อ รักษา สส.ที่มีอยู่เดิม และเพื่อเพิ่มจำนวน สส. ให้มีมากกว่าเดิม และวันนี้ “กระแส”ของพรรคประชาติ “ดีวันดีคืน” เพราะผลงานใน”สภาผู้แทน” เข้าตาคนในพื้นที่ และ สส.ในพื้นที่ รวมทั้ง “เลขาธิการ”พรรค ที่ลงพื้นที่”ต่อเนื่อง” เพื่อรับทราบปัญหาความทุกข์ยากของคนในพื้นที่  และนี่คือสิ่งที่ ชาวบ้านต้องการ  ไม่ต้องใช้เงินในการ”ซื้อเสียง”ล่วงหน้า แต่เป็นการ”ได้ใจ”ชาวบ้านล่วงหน้าไปแล้ว….

@แต่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 วันนี้ที่มี อนุมัติ ซูสารอ เป็น สส.ของพรรคประชาชาติ แต่ไม่เคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรค เป็นเขตเลือกตั้งที่ “ประชาชาติ” ต้องเฟ้นหาผู้สมัครใหม่ เพื่อมี”แข่งขัน”กับ”อนุมัติ” หรือ “กำนันมะ” ในการเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งยังไม่มีความ”ชัดเจน” ว่า จะเป็น ใคร เป็นนักการเมือง”หน้าเก่า” หรือ”หน้าใหม่ แต่เชื่อว่าทุกเขตของ จ. ปัตตานี”ประชาชาติ” มีลุ้นทุกเขต โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 3  ที่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว”มูฮัมมัดอารีฟีน จะปะกียา” จาก”ประชาชาติ” แพ้ไปอย่างฉิวเฉียด”ตอนที่”ไฟดับ” เลือกตั้งสมัยหน้าจะ”แก้มือ” ได้สำเร็จ เพราะชาวบ้าน”ส่วนใหญ่” ยังให้การ”สนับสนุน” และ”เจ้าตัว” ก็ลงพื้นที่เข้าหาประชาชนอย่างต่อเนื่อง…..

@แผนในการ”กำจัดขยะ” เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จาก”ขยะ”จำนวน 7 แสนตันของเทศบาลนครตรัง ที่มีการแจ้งว่ามีแผนอยู่ 3 แนวทาง 1 ขุดร่อนขยะในบ่อ 5 แสนตัน 2 ขุดร่อนขยะปากบ่อ 2 แสนตัน และ 3 ก่อสร้างเตาเผาขยะไฟฟ้าแบบยั่งยืนในพื้นที่”นาโต๊ะหมิง” ที่ต้องใช้เวลาในการ”ขนขยะ” จากที่เดิมออกไป 10 ปี นี้ใจคอ  .ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศบาลนครตรัง กะจะให้ชาวบ้าน”ทุกข์ทน” อยู่กับ กองขยะ อีก 10 ปี มันเป็น”หลักคิด” หลักการ”บริหาร” ที่ถูกต้องหรือไม่ ผู้ที่เดือดร้อนกับ”กองขยะ” คิดเอาเอง….

@การสร้าง”แลนด์มาร์ค” แห่งใหม่ เพื่อเพิ่มสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.สงขลา โดย บริษัท “ที่พีไอ เพาเวอร์ โพลีน” ด้วยการสร้าง องค์เจ้าแม่กวนอิม” ที่สูงที่สุดในโลก ในพื้นที่ของ”บริษัท” ที่ ริมทะเลหมู่ที่ 1 ต.บางบาง อ.เทพา จ.สงขลา และถูก”ต่อต้าน” จาก”ผู้นำ”ศาสนา” และจาก”เอ็นจีโอ” เพราะเชื่อว่าการสร้าง”แลนด์มาร์ค” แห่งใหม่ เป็นเรื่องเดียวกับการสร้าง ”นิคมอุตสาหกรรม” ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เรื่องนี้แค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะ “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” จะเกิดหรือไม่เกิด ยังมีเรื่องให้ดำเนินการอีกหลายขั้นตอน ทั้งกฎหมาย”ผังเมือง” ทั้ง กฎหมาย”สิ่งแวดล้อม ที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ จะผ่านหรือไม่ผ่านยังไม่รู้ แต่เรื่องการสร้าง”แลนด์มาร์ค” ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.สงขลา และ ใกล้เคียง เป็นเรื่องที่เป็น”ประโยชน์” กับ เศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกับประชาชน  และที่สำคัญ”องค์เจ้าแม่กวนอิม” เป็นเรื่องความเชื่อทาง”ศาสนา” ที่เป็นเครื่อง”ยึดเหนี่ยว” จิตใจให้คนทำความดี กลุ่มที่ ออกมา”คัดค้าน” ต้อง”ทบทวน” และ คิดให้”รอบคอบ” อย่ามี”อคติ” แค่คนสร้างเป็น คนเดียวกับ โครงการ”นิคมอุตสาหกรรม” เท่านั้น….

@แจ้งจากพ่อเมือง นราธิวาส สนั่น พงษ์อักษร ถึงกรณี “แนวร่วม” วางระเบิด”แสวงเครื่อง” ในชายหาดบ้านทอน ต.โคกเคียน  อ.เมือง นราธิวาส เป้าหมายของ”แนวร่วม” อยู่ที่ “เจ้าหน้าที่” รักษาความปลอดภัยของสนามบิน ไม่ใช่อยู่ที่ต้องการ”สอยเครื่องบิน” ตามที่”เป็นข่าว”  ก็ขอให้ ประชาชน รับทราบตามนี้ และอย่างได้”ตกใจ” กับข่าวที่เกิดขึ้น สนามบินนราธิวาสยัง”ปลอดภัย” และ จุดที่”แนวร่วม” วางระเบิด ยังห่างไกลจาก สนามบินนับ 10 กิโลเมตร รับทราบตามนี้นะครับ….

@บรรทัดนี้ชาวบ้าน แจ้งข่าวถึง เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา ให้ทราบว่า เวลานี้ แต่ละอำเภอของ จ .สงขลา มีการ จัดงาน”สวนสนุก” ทั้งงาน”กิ่งกาชาด” และงาน”ของดี” ของแต่ละอำเภอ เช่น ที่”สะบ้าย้อย,ที่”นาทวี” ที่  จะนะ และ ในพื้นที่อื่นๆ อีก”มากมาย” ในงานนอกจาก”ขายสินค้า” ที่ราคาไม่ได้ถูก อย่างที่มีการ”ประชาสัมพันธ์” และ ยังมีการเปิดให้มีการ”เล่นการพนัน” มากมายหลายประเภท ถ้าผู้ใหญ่เป็นคนไปเล่นก็ไม่ว่ากัน แต่ชาวบ้านฟ้องมาว่า ผู้ที่เข้าไปเล่นและเป็น”ลูกค้า” ของ”การพนัน” แต่ละประเภท มีแต่ “เยาวชน” และ “นักเรียน” เต็มไปหมด “เจ้าภาพ” ผู้ให้”อนุญาต” ในการ”จัดงาน”คือ”นายอำเภอ” และผู้รับเงินตามข้อตกลงกับ”ผู้จัดงาน” ก็คือ”นายอำเภอ ดังนั้นเมื่อมีการ”อนุญาต”ให้จัดงานได้ ก็ต้อง ควบคุมงานที่จัดให้อยู่ใน”กติกา” ตาม”กฎหมาย” อย่าให้มีการ “เล่นการพนัน” โดยมี “เยาวชน” และ”นักเรียน” เป็นเหยื่อ”อย่างที่เห็นกัน”ทนโท่”….

@เรื่องของ”กัญชาเสรี” ยังไม่จบง่ายและกลายเป็นเรื่อง”ระหว่างประเทศ”ไปแล้ว “เมื่อประเทศเพื่อนบ้าน” ทุกแห่งที่”รายล้อม”ประเทศไทย ต่าง เตือนคนของเขาให้ทราบถึง”อันตราย” จากการเข้ามา ประเทศไทย เพราะอาจจะได้รับ”สาร”ของ”กัญชา” ทั้งที่”ตั้งใจ” และไม่”ตั้งใจ” ถ้ากลับเข้าประเทศเขา และมีการ”ตรวจพบ” จะมีความผิด เพราะประเทศ”เพื่อนบ้าน” ของเรา”กัญชา” ยังเป็น”ยาเสพติด” ที่ผิด”กฎหมาย”  ล่าสุด มี”คนไทย” ที่เดินทางเข้าไปมาเลเซีย ถูก”จับกุม” และถูกลงโทษตาม”กฎหมาย” มาเลเซียไปแล้ว 3 ราย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่”เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ รัฐมนตรีว่าการ” สาสุข” อย่าเข้าใจว่าเป็นเรื่อง”การเมือง” ที่ออกมา”โจมตี”เพื่อหวังผลทาง”การเมือง”เพราะเรื่องนี้เป็น ”เรื่องจริง” และเป็นการ “เสียประโยชน์” ในเรื่องของการ”ท่องเที่ยว” ที่ประเทศไทยได้รับ และต้องเร่งแก้ไข ไม่ใช่ได้”แก้ตัว”ไปวันๆ และ”โบ้ย” ว่าเป็นเรื่อง“การเมือง”….

@เช่นเดียวกับเรื่องของ”น้ำกระท่อม” ที่ ตั้งแต่มีการ”ปลด” พืชกระท่อม ออกจากบัญชี”ยาเสพติด” ประเภท 5  วันนี้ในพื้นที่ของภาคใต้  มีการ ต้ม”น้ำกระท่อม”บรรจุขวด ที่ขายกันอย่างเสรี” ขายดิบขายดีเป็น”เทน้ำเทท่า” ผู้คนหันมา”เสพน้ำกระท่อม” ทั้งในบ้าน ในรถยนต์ ต่างมี”น้ำกระท่อม” ไว้กินต่างน้ำ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็น”น้ำกระท่อม” ที่ขายกัน”เกลื่อนกลาด”มีส่วนผสมของ “ยาแก้ไอ” และ”ใส่สาร” อื่นๆ ที่เรียกว่า”4 คูณ 100” หรือไม่อย่างไร เพราะมีข้อสังเกตุว่า ถ้าเป็น”น้ำกระท่อม” แบบ”เพียวๆ” ที่ไม่มีส่วนผสมของ”ยาแก้ไอ” ไม่เป็นที่นิยมของ”วัยรุ่น”  เรื่องนี้ฝากให้ พงศธร ธรรมชาติ ผอ.ปปส.ภาค 9 คิดเป็น”การบ้าน” ว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร  รวมทั้ง พล.ต.ท.นันเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9  ก็ต้องคิดให้มากว่า ถ้า”สังคม” อุดมไปด้วย”ยาเสพติด” ภาคใต้จะเป็น”สังคมอุดมปัญญา” อย่างไร ที่สำคัญ “ซ้ายก็กัญชา” และ”ขวาก็น้ำกระท่อม” ในขณะที่”ยาบ้า” ก็ยัง”เกลื่อน”ไปหมดในทุกพื้นที่ซึ่งเรา”ก้าวมายังจุดนี้แล้ว” และ”ก้าวต่อไป” จะทำอย่างไร ก็ ฝากให้ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้….

@จากราคาน้ำมันที่”โครตแพง” จากการ”สู้รบ” ระหว่าง “รัสเซีย” กับ”ยูเครน” และจากการ”ฉวยโอกาส” ของ บริษัทผู้ผลิตน้ำมันในการ”ปั่นราคา” ทำให้มีการ”โฆษณา” ขายน้ำมันที่อ้างว่านำเข้าจาก”รัสเซีย” ทั้งทาง”โซเชียล” และในกลุ่ม”ผู้ค้าน้ำมัน” ว่ามี น้ำมันที่”ราคาถูก”กว่าของ”โรงกลั่น” และเป็น “ยูโรโฟร์” ที่เป็น”มาตรฐาน”เดียวกับ น้ำมันของ”โรงกลั่น” ในประเทศไทย ขายในราคาถูกกว่าราคา”หน้าปั๊มลิตละ 2-3 บาท  เท็จจริง เป็นอย่างไร ไม่รู้ แต่ มีข่าวว่า มีผู้ที่ต้องการ”ของถูก” ถูกหลอกให้”โอนเงิน” ล่วงหน้าเพื่อซื้อน้ำมัน”ดีเซล” ไปแล้วหลายราย”ต้นตอใหญ่” อยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  ก็ขอทำตัวเป็น”พลเมืองดี” แจ้งให้ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรี”พลังงาน” และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้รับรู้ ส่วนจะ”จัดการ”อย่างไรเป็นหน้าที่ของพวกท่าน ….

@เรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “สั่งการ” ให้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เร่ง ผลักดัน โครงการ โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้าชีวภาพ ให้เต็ม”รูปแบบ” ตามโครงการให้มีการผลิต”ไฟฟ้า”ได้ 106.9 เมกกะวัตต์ ซึ่งถ้าทำสำเร็จ จะมีผล 12,000 ครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ ในการ”สร้างงาน” สร้างเงิน” โดยจะมี เกษตรกร ได้ร่วมโครงการ ปลูก ไม้โตเร็ว จำพวก กระถินเทพา หญ้าเนเปียร์ และ ไผ่ ที่เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ในพื้นที่ 200,000 ไร่ ซึ่ง วันนี้สิ่งที่ ศอ.บต. ต้องเร่งดำเนินการ คือการ “ผลักดัน” ให้ สภาการเกษตร ร่วมมือกับ วิสาหกิจชุมชน ในการสร้างความรู้ และความเข้ากับให้กับ เกษตรกร ที่สำคัญ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีที่”รกร้าง” ที่สามารถ”พลิกฟื้น” เพื่อ “สร้างงาน” สร้างเงิน” ให้กับ “เกษตรกร”ถึง 3 แสนไร่ และงานนี้ก็เป็น”งานช้าง” สำหรับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. และ คณะผู้บริหาร ….แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ 

———————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

เฉลิมพระเกียรติ .     พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.ตชด.ภาค 4  พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด. 44 นำจิตอาสา ข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 และครอบครัว คณะครูและนักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี   โรงเรียนบ้านบุดี กำนัน –  ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มสตรีตำบลบุดี กว่า 300 คน ร่วมกิจกรมจิตอาสา “ตระเวน ปลูกป่า ชายแดนเฉลิมพระเกียรติ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ อ่างเก็บน้ำบ้านบุดี ภายในกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ต.บุดี อ.เมืองยะลา จ.ยะลา 

สะพานไทย-มาเลเซีย.   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.)ต้อนรับที่ปรึกษารัฐมนตรีคมนาคมประเทศมาเลเซีย พร้อมคณะ เพื่อหารือการสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และพัฒนาด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั่ง 3 ด่าน ใน จ.นราธิวาส 

เสาเอก.   บุญพาส รักนุ้ย รอง เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานในการยกเสาเอก เพื่อก่อสร้างมณฑปพ่อท่านดำ ณ วัดทรายทอง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อเป็นที่เคารพ สักการะของชาวพุทธในพื้นที่ โดยมี  ร.ต.สมบัติ สิงห์คาร นายอำเภอรือเสาะ และประชาชนร่วมในพิธี 

ห่วงใย.   พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เป็นผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ไปที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ นางมัสก๊ะ ยูโซ๊ะนี เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ นางมัสก๊ะ ยูโซ๊ะนี  ที่โดนกับระเบิดจากแนวร่วมขบวนการก่อการร้าย ทำให้สามีเสียชีวิตและตนเองบาดเจ็บสาหัส ที่ ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 

สถานการณ์น้ำ.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดตรัง ติดตามสถานการณ์น้ำ ตามแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ ทั้งระบบในภาคใต้ โครงการสำคัญเร่งด่วนในจังหวัดตรัง ซึ่งได้มอบหมายสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดไปดำเนินการโดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ให้กรมชลประทานเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ พร้อมรองรับช่วงฤดูฝนที่จะมาถึง 

คนรุ่นใหม่.   นิพนธ์ บุญญามญี รองหัวหน้าพรรค ปชป./รมช.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงานครบรอบ 30 ปีสหกรณ์อิสลาม อิบนูอัฟฟาน จำกัด พร้อมประกาศสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ ในชายแดนใต้ เข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างงานสร้างรายได้ ณ อาคารห้างสรรพสินค้าเอเชียลมอลล์ อ.เมือง จ.ปัตตานี 

เปิดตลาด.    นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธาน เปิดตลาดน้ำคลองแห ภายใต้ชื่อ”เปิดเมืองฆ้องโบราณ สู่ตำนานโคกหลังนกคุ่ม” ณ ตลาดน้ำคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี รอง ผวจ.สงขลา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองแห และประชาชนร่วมงานอย่างคับคั่ง 

ตรวจที่เกิดเหตุ.    สนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่ ปกครอง ตำรวจ ทหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบการวางระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ชายหาดบ้านทอน อ.โคกเคียน ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่ เจ้าหน้าที่ทหาร ไม่ใช่ สนามบินนราธิวาส อย่างที่เป็นข่าว 

ฟุตบอลวันระพี.   พล.ต.ต. ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จ.ยะลา นำทีมตำรวจลงสนาม แข่งขันฟุตบอล วีไอพี วันระพี ระหว่าง ทีมตำรวจยะลา/ศาล/อัยการ/ทนายความ/ยุติธรรม ณ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม โรงเรียนเทศบาล 1 ยะลา 

ปีใหม่อิสลาม.   ซาลี วาแมดีซา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าธง เปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์ต้อนรับวันปีใหม่อิสลาม ฮ.ศ.1444  พร้อมด้วย ซารีฟ วาเย็ง เลขานุการ และ ซัมซูดิง มะสะแห ประธานสภา ณ สนามกีฬาบ้านเจาะกาแต หมู่ที่ 7 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา โดยมี อีหม่าม คอเต็บ บีลา ทีมปกครอง และพี่น้องชาวเจาะกาแต ร่วมกิจกรรมดังกล่าว 

แสดงความยินดี.  ดร.ระเด่น สะมะแอ รองนายก อบจ.ยะลา พร้อมด้วยนายมูหัมมัดอามีน มะทา เลขานุการนายก อบจ.ยะลา ร่วมแสดงความยินดีและฉลองแชมป์ประเทศไทย 108 ปอนด์ แชมป์ 115 ปอนด์เวทีช่อง 7 สี และ 108 ปอนด์เวทีลุมพินี กับนักชกคนเก่ง “รักษ์เอราวัณ” ที่ค่ายมวยเอราวัณ ด้านหลังโรงพยาบาลสิโรรส เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา โดยมีขุนเข่าบูโด “สายฝน ลูกกาบู” ยอดมวยในอดีต และ ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ มูดอ หัวหน้าค่ายมวย “เอราวัณ” ให้การต้อนรับ 

ผู้ด้อยโอกาส.  กูพัครูรรอซี กูโน  หัวหน้าทีมงานมิตรภาพไร้พรมแดน ร่วมกับ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ สำนักพิมพ์อัซซาบิกูน พร้อมด้วย ผู้นำชุมชน ปฏิบัติภารกิจร่วมลงพื้นที่บ้านกาโต , บ้านบ่อสามลูก , บ้านบองอ ของ ต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี เพื่อเยี่ยมเยียนพี่น้องผู้ด้อยโอกาสและยากไร้ โดยมอบถุงยังชีพ จำนวน 6 ครัวเรือนสร้างรอยยิ้มอบอุ่นให้กับผู้รับมอบอีกด้วย 

ชุมชนสัมพันธ์. ด.ต.โดมเดช ขุนกลับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อแดง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม เข้าร่วม”โครงการชุมชนสัมพันธ์ โดย กอ.รมน.จังหวัดสงขลา ณ หมู่ที่ 5 ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จังหวัดสงขลา 

ผู้สูงอายุ.  โยธิน ทองเนื้อแข็ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เขตอำเภอกระแสสินธุ์ร่วมกิจกรรมเครือข่ายผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา ซึ่งนำโดย นิยม ชูชื่น นายกสมาคมเครือข่ายผู้สูงอายุ ณ วัดเอกเชิงแส อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา 

ยื่นหนังสือ.   ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี สส.เขต 4 สงขลารับหนังสือร้องเรียนจาก ปรีชา สุขเกษม  ประธานเครือข่ายภาคพลเมือง จ.สงขลา เพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกรณีทีการก่อสร้างศูนย์อควาเลี่ยมสัตว์น้ำซึ่งตั้งอยู่ในวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ที่ก่อสร้างมา14 ปี หมดเงินแล้ว 1,400 ล้านบาทแต่ทำไมถึงยังไม่สำเร็จ 

ร่วมพิธี.    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ/เลขาธิการพรรคประชาชาติ รวมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูวิชาญโพธิวัฒน์ อดีตเจ้าาวาสวัดโพธาราม ณ วัดโพธาราม ต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี 

วัยรุ่นล่าฝัน.    นันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ ผอ.กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต.เป็นประธานเปิดงาน”มหกรรมวัยรุ่นล่าฝัน”โดยมีผู้แทนภาคเอกชน ภาคประชาสังคมภายใต้การสนับสนุนของ อียู และ สหรัฐอเมริกา ณ โรงแรมซีเอส จ.ปัตตานี