“ไม่มีสิ่งใดช่วยให้คุณได้เปรียบคนอื่น…มากเท่ากับการควบคุมอารมณ์…ให้สงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาในทุกสถานการณ์”

ข่าวคราวเงียบหายไปพักใหญ่ๆแล้ว จู่ๆ ก็มีข่าวภัยสังคมแฝงความอันตรายนี้กลับมาอีกแล้ว สำหรับ “ยาเสียสาว” วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรม คุกคามทางเพศหรือการมอมยา

เรื่องมันมีอยู่ว่า มีคุณพ่อท่านหนึ่งที่ จ.กาฬสินธุ์ บอกเล่าเรื่องราวนี้ว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ลูกสาววัย 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 ได้ชักชวนเพื่อนๆ 3-4 คน มาเรียนออนไลน์กันที่บ้าน ซึ่งในช่วงนั้นผู้เป็นพ่อและแม่ไม่อยู่บ้าน

เมื่อกลับมาตอนเย็นเห็นลูกมีอาการผิดปกติคล้ายเหม่อลอย ครู่เดียวก็มีอาการช็อก ล้มทั้งยืน ด้วยความตกใจต้องรีบพาส่ง รพ. จากนั้นก็เริ่มชักเกร็งและตัวเขียว แพทย์รีบนำเข้าห้องฉุกเฉินใส่เครื่องช่วยหายใจ รักษาเต็มที่จนพ้นขีดอันตรายมาได้

ลูกสาว เล่าว่า ขณะนั่งเรียนออนไลน์นั้น ลูกกับเพื่อนได้ออกเงินกันไปซื้อน้ำอัดลมมาดื่ม แล้วเพื่อนในกลุ่มก็เอายาที่มาทราบทีหลังว่าคือ “ยาทรามาดอล” เป็นแคปซูลเขียวเหลือง เป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรง เอามาผสมกับน้ำอัดลม แต่ละคนดื่มกันประมาณ 10 เม็ด เพื่อนๆ ไม่เป็นอะไร แต่ตัวเองกลับอาการหนักเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ต่อมา เมื่อตำรวจ สภ.เขาวง ทราบข่าว ก็เร่งสืบหาเบาะแสว่ายาเสียสาวนี้กลับมาระบาดอีกได้อย่างไร กระทั่งค่อยๆ สืบสวนขยายผลจากกลุ่มเด็กนักเรียนที่ซื้อยาทรามาดอลแบบนี้ จนในที่สุดก็เจอตัวคนขาย นั่นคือ นายธีรุตม์ อุทโท อายุ 24 ปี จึงวางแผนล่อซื้อแล้วดักตะครุบตัวได้

ความน่ากลัวของ “ยาเสียสาว” ที่เอายาทรามาดอลผสมน้ำอัดลมนี้นั้น มันจะออกฤทธิ์เหมือนมอร์ฟีน ทำให้เกิดอาการเคลิ้มสุข เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องและไม่ได้สติ ถ้ากินมากๆ ก็อาจเสียชีวิตได้

ไม่น่าเชื่อว่ามันจะกลับมาระบาดอีก ที่สำคัญ “ยาทรามาดอล” เป็นยาอันตราย ใช้บรรเทาอาการปวดชนิดรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก ให้จำหน่ายในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น คนซื้อต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และจ่ายในปริมาณไม่เกิน 20 เม็ดต่อครั้ง ห้ามจำหน่ายแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี

ฉะนั้นอย่าปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแค่จับกุมหนุ่มวัย 24 ปี คนนี้แค่นั้น แต่ต้องขยายผลสาวไส้ให้ถึงจุดเริ่มต้นว่า ไปได้มันมาจากไหน ใช้วิธีอะไร แล้วใครเอามาขายให้อีกที เพื่อตัดรากถอนโคนที่ต้นทาง ซึ่งเท่าที่รู้ตอนนี้มันเริ่มลุกลามขึ้นเรื่อยๆ ในมุมมืดแล้ว อาจมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อ “จิ้งจอกสังคม” ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ไม่เช่นนั้น “ยาเสียสาว” มันจะกลับมาระบาดหนักอีกครั้ง.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

ร่วมด้วยช่วยกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น แม่ค้าขายพวงมาลัยกลางสี่แยก ประชาชนพลเมืองดี ช่วยกันเข็นรถยนต์ของชาวบ้าน ที่ขับมาจอดเสียกะทันหัน กีดขวางการจราจร กลางสี่แยกไฟแดง ถือเป็นน้ำใจที่ทุกคนควรช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องปฏิบัติช่วยเหลือประชาชนทุกโอกาส ทุกสถานการณ์ อย่างโอบอ้อมอารี ตามนโยบายของทาง พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ ที่มุ่งให้บริการ ช่วยเหลือประชาชนทุกระดับในทุกด้วย

บริการดุจญาติมิตร
พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู แชร์โพสต์สายตรวจ สภ.สุวรรณคูหา ทำดีจนเกิดกระแสตำรวจในหัวใจ มีอยู่ 2 เคส เคสแรก ในเวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ชุดสายตรวจสุวรรณ 20 ปฏิบัติหน้าที่หน้า สภ.สุวรรณูหา จู่ๆ นายอรุณ แสงสุขสว่าง อายุ 62 ปี ราษฏร ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา มาสอบถามว่ารถโดยสารหมดคิวไม่มีรถกลับบ้าน สายตรวจชุดดังกล่าว ขออาสาพาไปส่งถึงบ้านพักด้วยความปลอดภัย นี่ก็เกือบ 20 กม. กับอีกเคสหนึ่ง ขณะที่สุวรรณ 20 ชุดสายตรวจ สภ.สุวรรณคูหา ออกปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ ต.ดงมะไฟ พบ 2 สามีภรรยากำลังช่วยกันเข็นรถ จักรยานยนต์ (จยย.) ไปตามเส้นทางบ้านโชคชัย-วังหินซา จึงจอดรถสอบถามว่าทำไมจึงเข็น รถ จยย.สองสามีภรรยา บอกว่าเพิ่งขี่มาจากทำนา รถ จยย.เกิดดับโดยไม่ทราบสาเหตุ ขี่ไปไม่ได้ จึงช่วยกันเข็นรถเพื่อจะไปร้านซ่อมซึ่งอยู่ห่างไกลร่วม 20 กม.จากนั้นชุดสายตรวจจึงขออาสานำรถ จยย.ขึ้นรถยนต์สายตรวจ สุวรรณ 20 ไปส่งที่ร้านซ่อมด้วยความปลอดภัย ท่ามกลางรอยยิ้มแห่งความประทับใจในความมีน้ำใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ชุดสายตรวจสุวรรณ 20 ในครั้งนี้

**********************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป