ปากกา “ที่ไม่มีหมึก” บางครั้งมันก็ทำให้เกิด “รอย” บนกระดาษได้…เช่นเดียวกับ “คำพูด” ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร บางครั้งมันก็ทำให้เกิด “แผลในใจ” สำหรับคนอื่นได้

ช่วงนี้อากาศร้อนจนตับแทบแตก เศรษฐกิจก็ร้อนระอุจนกระเป๋าจะฉีก นี่ยังไม่นับรวมถึงการแพร่ระบาดของเจ้าโควิดที่ร้อนแรงลุกลามไปทั่วประเทศอีกนะ เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตในแต่ละวัน จำเป็นต้องใช้สติ อย่าเครียดอย่ากังวลให้มากถึงมากเกินไปนัก ไม่อย่างนั้นนอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว สุขภาพกายสุขภาพใจก็จะย่ำแย่ตามไปด้วย

ว่าด้วยเรื่องร้อนๆ แล้วก็นึกถึง “อาการหัวร้อน” ซึ่งก็คือ คนที่อารมณ์ร้อน โมโหง่าย หรือ ใจร้อนเร็ว สร้างเรื่องราวที่เป็นข่าวขึ้นมา ก่อนจะถูกกระจายข่าวเผยแพร่คลิปออกไปอย่างรวดเร็วผ่านโลกโซเชียลและสื่อหลักๆ 

โดยเฉพาะเรื่องการใช้รถใช้ถนนเนี่ย เกิดเรื่องหัวร้อนในโลกออนไลน์ได้มากที่สุดแล้ว ยกตัวอย่างคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปกล้องวงจรปิดพร้อมเขียนข้อความว่า “ยุคนี้มันยุค Covid ให้กูตายด้วยโรคยอดฮิตเถอะ อย่าให้กูตายเพราะโดนยิงเลย ขับรถเร็ว เบียดเลน ยังมีหน้ากลับมาปาดอีก ทุบกระจก จิกผม เอาปืนมาขู่ ยิงปืนใส่พื้น 1 นัด ยกมือไหว้หลายครั้ง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ฝ่ายผิด ก็ยังไม่ยอม”

ในคลิปจับภาพขณะ รถยนต์อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ล 6596 กรุงเทพมหานคร ขับรถไล่ตามรถของผู้เสียหายออกมาก่อนจะปาดหน้า จากนั้นคนขับที่อยู่ในอาการหัวร้อนควันโขมงก็เปิดประตูลงจากรถพร้อมกับอาวุธปืน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านพฤกษา 96/1 หมู่ 5 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 

เรื่องนี้ น.ส.กาญจน์นัฐฐา อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะตนและเพื่อนสาวขับรถออกจากบ้าน โดยเพื่อนเป็นคนขับ พอขับมุ่งหน้าไปท้ายหมู่บ้านเพื่อวนรถเพราะขี้เกียจกลับรถ พอถึงจังหวะเลี้ยวจะไปออกถนนเมนหลัก มีรถลูกบ้านจอดเรียงกันอยู่สองฝั่งถนน เพื่อนเลยขับเบี่ยงหลบไปมา ประกอบกับด้านหน้ามีป้าจูงสุนัขเดินข้างถนน เพื่อนจึงขับเบี่ยงหลบ จังหวะนั้นรถคู่กรณีขับสวนทางมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเปิดกระจกตะโกนด่าและแจกของลับ พวกตนก็ไม่ได้สนใจอะไรขับรถเลยไป แต่คู่กรณีได้กลับรถมา และเร่งเครื่องไล่ตามมาแซงปาดหน้า

“จากนั้นชายหัวร้อนคนขับก็ลงจากรถมา เดินชักปืนขึ้นลำโชว์ ตรงมาทุบกระจก พอลดกระจกจะพูดคุยด้วย เขาก็จิกกระชากผมทันที ไม่สนใจว่าเป็นผู้หญิงเลย พร้อมบอกว่า “มึงอยากตายเหรอไอ้…” หนูกับเพื่อนสาวตกใจยกมือขอโทษ อยากให้เรื่องมันจบ จากนั้นเขาได้ยิงปืนลงพื้น 1 นัด จนพื้นปูนแตกเป็นรู ต่อมานิติบุคคลหมู่บ้านรู้เรื่องก็มาดูที่เกิดเหตุ เขาก็ยังตามมาด่านิติบุคคลด้วยว่ามายุ่งอะไรเรื่องของกู ทำให้พวกหนูต้องเข้าแจ้งความ”

เวลาต่อมา นายนพวัฒน์ บุญกิตติพร อายุ 39 ปี หนุ่มมิวเอ็กซ์หัวร้อน แต่ตอนนี้หัวเย็นใจเย็นลงแล้ว ก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.คลองหลวง พร้อมนำปืนในคลิปมามอบให้ตำรวจด้วย ก่อนจะยอมรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในคลิปที่ปรากฏขับรถปาดหน้าใช้ปืนข่มขู่จริง

นายนพวัฒน์ บอกเล่าว่า วันนั้นเข้าไปเก็บเงินพรรคพวกที่บ้านในหมู่บ้านดังกล่าว แต่พรรคพวกกลับหนีไปทำให้โมโหเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมาเจอคู่กรณีขับรถเบียดกระชั้นชิดทำให้ยิ่งโมโห จึงกลับรถขับไล่ตามไปปาดหน้าและถามว่าไอ้น้องทำไมขับรถแบบนี้ แต่คู่กรณีไม่เปิดประตู จึงเคาะประตู ทำให้คนขับเปิดกระจกลงมา ด้วยความโมโหจึงกระชากผมและด่าคำหยาบ พอจบเรื่องก็เดินกลับไปขึ้นรถ แต่เผลอลองเหนี่ยวไกปืนดู ปรากฏว่าปืนเกิดลั่น 1 นัด จึงรู้ว่าขึ้นลำปืนไว้ กระสุนพุ่งเจาะพื้นถนนเป็นรู ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะยิงปืนขู่หรือเอาชีวิต ทำไปเพราะบันดาลโทสะ อยากขอโทษคู่กรณีด้วย

คดีนี้ตำรวจแจ้งข้อหาไปเต็มๆ ทั้งเรื่องข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ดูหมิ่นซึ่งหน้า และคดีอาวุธปืน และเรื่องนี้คงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ใช้เป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ชัดเจนระหว่างตอน “หัวร้อน” กับตอน “หัวเย็น” สติในการพูด ลักษณะท่าทางการกระทำ มันแตกต่างกันสิ้นเชิง ฉะนั้นพยายามนับ 1 ถึง 10 ถึง 100 เอาไว้ถ้ากำลังโมโห แล้วคิดให้ไกลๆ ว่าหากเราทำไปแล้ว มันจะเกิดผลอะไรตามมาบ้าง.

IFrame

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

โครงการชุมชนยั่งยืน
ที่วัดบ้านทุ่งนาคำ ต.บุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นายสมชัย บูระณะ นายอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ โดยมี พ.ต.อ.วรการ ป้องกัน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ สาธารณสุขอำเภอวารินชำราบ พร้อมตัวแทนในชุมชน นำเยาวชนเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มอบหมายให้ สภ.วารินชำราบ ดำเนินงาน โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยให้ดำเนินงาน เพื่อป้องกัน แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน โดยเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจ และรับรู้ปัญหาพิษภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด โดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง และทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

จับทุกวันก็ไม่หมด
ร.ต.อ.วายุ คำภา รอง สวป.สภ.ชุมแพ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดอัศวิน ได้จับกุมตัว นายสุวัฒน์ ผุยลา พร้อมของกลางยาบ้า 375 เม็ด โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณบนถนนบ้านนาคำน้อย ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ขณะเจ้าหน้าที่ออกกวดขันจับกุมกลุ่มรถแว้นแต่งซิ่ง ออกตรวจเดินทางถึงบ้านนาคำน้อย พบผู้ต้องหาขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน จอดอยู่บนถนนสาธารณะในหมู่บ้าน พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอาการพิรุธ ตกใจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น ก่อนพบของกลางดังกล่าว พื้นที่เยอะจริงๆ จับเท่าไหร่ก็ไม่หมด

ห่วงใยคนขับขี่..
ที่ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านขับรถผ่านถนนสาย พยุห์-ไพรบึง อ.พยุห์ พบเห็นตำรวจ 2 นาย ก้มเก็บก้อนดินเหนียวขนาดใหญ่ที่ร่วงหล่นจากรถบรรทุกดินอยู่กลางถนนด้วยความตั้งใจ เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยของประชาชนผู้สัญจรไปมาอย่างเข้มแข็ง ไม่ลังเล ส่งผลทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นต่างพากันชื่นชมในการทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ ของ ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย เสนคราม รอง สว.ป จราจร สภ.พยุห์ และ ด.ต.สมสรรค์ จันทะเสน ผบ.หมู่ ป.จราจร สภ.พยุห์ สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำดี สมควรได้รับคำชื่นชม

หน่วยพิฆาตโควิด
พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “หน่วยพิฆาต โควิด-19” โดยมี พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.ภัทรพล หาญทนงค์ รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ, พ.ต.ต.วิทวัส คำสียา สวป.สภ.เมืองบึงกาฬ, นายราชันย์ วะนาพรม นายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ, เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองบึงกาฬ ร่วมกันเปิดโครงการ “หน่วยพิฆาต โควิด-19” ณ สภ.เมืองบึงกาฬ ปล่อยแถว หน่วยพิฆาตออกปฏิบัติการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามชุมชน สถานที่ราชการ บ้านเรือนประชาชน สถานที่อื่นๆ เพื่อเป็นการยับยั้ง ป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้ขยายออกไปเป็นวงกว้าง ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อจากคุณวีระ ธนวรรณกุล

ตรวจความพร้อม..
ร.ต.อ.ชุมพล โพธิ์ลาดพร้าว รอง สว.จร.สภ.สองพี่น้อง ร่วมกับ สำเริง มีทอง หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสุพรรณบุรี สาขาอำเภอสองพี่น้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่รถตู้โดยสารสาธารณะ พร้อมอบรมชี้แจงระเบียบรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารขณะร่วมเดินทาง ณ สถานีรถตู้รับส่งผู้โดยสารหอนาฬิกาตลาดบางลี่

ช่วยครอบครัวหญิงพิการ
เมื่อวันก่อนที่บ้านเลขที่ 48 ม.12 ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สภ.สุวรรณคูหา ร่วมกับนายจรูญ วิริยะสังวร นายอำเภอสุวรรณคูหา และผู้นำชุมชนบ้านพิทักษ์พัฒนา ตำบลนาสี อ.สุวรรณคูหา  จิตอาสาพระราชทานร่วมกันทำจิตอาสาช่วยเหลือครอบครัวนางแดง เกษรหอม(ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้) โดยร่วมกันทำความสะอาดบริเวณบ้านที่เกิดเพลิงไหม้  พร้อมนำรถทุบทำลายซากบ้านที่ถูกไฟไหม้เพื่อสร้างใหม่  หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง  และในกองเพลิงยังพบร่าง นางแดง  เกษรหอม. อายุ 60 ปี เป็นเจ้าของบ้านและเป็นผู้พิการเป็นอัมพฤกษ์เดินได้แต่ต้องใช้ไม้เท้าเสียชีวิต จากนั้นได้มอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งอีกด้วย

***************************
คอลัมน์    :     สน.รอตรวจ

โดย         :     บิ๊กสลีป