ความปลอดภัยคืออย่างแรก จุดแล้วเอาผ้าคลุมปิด อาจติดไฟได้ อันตรายถึงชีวิต ส่วนประเด็นต่อมาคือบทลงโทษ

2 ครั้งแล้ว ที่บอลไทย โดน เอเอฟซี ปรับเงินเรื่องจุดพลุในสนาม
      
ครั้งแรกแมตช์วันที่ 6 ก.ย.57 ปรับเงินประมาณ 3.6 แสนบาท เกมที่ ไทย แพ้ มาเลเซีย 0-1 ฟุตบอล 16 ปีชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่สนามเมืองทอง

อีกครั้งโดนปรับ ปี 2560 โดนไป 1.07 ล้านบาท เหตุเกิดจากเกม ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2016 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 17 ธ.ค.59

สมาคมลูกหนัง จะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งในเคสหลังผู้ก่อเหตุก็เพิ่งไปขึ้นศาลเมื่อราวสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้หลาบจำ เกรงกลัว

เหตุการณ์ล่าสุด เอาพลุเข้าไปได้อย่างไร กลวิธีคือ รอรวมผลเยอะๆ 200-300 คน แล้วเข้าสนามพร้อมกัน ไปออตรงทางเข้า รปภ.มีจำนวนจำกัด ก็ตรวจไม่ทัน

เมื่อจุดแล้ว พอตำรวจจะเข้าเคลียร์ ก็เอาผ้าผืนใหญ่มาบัง แถมมีหน่วยคุ้มกัน อาศัยคนหมู่มากกันเจ้าหน้าที่ไม่ให้ถึงตัว

ดูจริงจังมาก วางแผนเป็นระบบ

อัฒจันทร์โซน S กลายเป็นมุมที่แฟนบอลทั่วไปที่ทราบๆ พฤติกรรมของเจ้าที่ ไม่อยากไปนั่ง หลบได้หลบ หลีกได้หลีก

กองเชียร์กลุ่มอื่น ก็เหม็นเบื่อ รุ่นใหญ่หน่อยก็ด่าตรงๆ รุ่นเด็กลงมา ไม่อยากมีปัญหา เพราะไงต้องเจอกันตลอดตามสนาม เดี๋ยวจะเครียด ต้องอาศัยด่าอ้อมๆ

อาจคิดว่าไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ก็เป็นผู้สนับสนุนบอลไทย ซื้อตั๋วเชียร์บอลไทย ก็ต้องถามกลับว่า คุณแค่จ่ายเงินเช่าเวทีฟุตบอลปลดปล่อยอารมณ์หรือเปล่า

ไม่ใช่อาชญากร แต่มันผิดกฎ ผิดระเบียบที่เขาเขียนไว้แบบไม่ใช่เรื่อง โดนปรับครั้งหลังกว่าล้านบาท หนนี้ถ้าจะโดนก็หนักกว่านั้นแน่ๆ

อาจถึงขั้น ห้ามแฟนบอลเข้าสนาม หรือห้ามเตะในบ้าน

คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องรับเคราะห์ บอลไทยรับผลกระทบ

เรื่องเก่าเป็นตัวอย่าง แต่ยังทำผิดซ้ำซาก

คำถามว่าจุดไปทำไม จุดหาใคร…จนปัญญายากหยั่งถึง

จุดทำไมไม่รู้ แต่ถ้าคิดถึงผลลัพธ์มันก็คือการจุดเพลิงเผาฟุตบอลไทยดีๆ นี่เอง

*** วุฒินล ***