ว่ากันว่าอาชีพนักมวย เป็นเหมือน “หมาล่าเนื้อ” ถ้าไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ หรือวางแผนชีวิตไม่ดีพอ ชีวิตหลังแขวนนวมอาจไม่สุขสบายอย่างที่หวัง…

ย้อนกลับไปเกือบ ๆ 30 ปีก่อน ในยุคที่เมืองไทยมีแชมป์โลกมากมายแทบจะเดินชนกันตาย ชื่อของ “เจ้าโบ้” รัตนพล ส.วรพิน คือหนึ่งในแถวหน้า นักชกร่างเล็กจาก อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ใช้ 2 หมัด 2 เท้าชกมวยไทยหาเลี้ยงชีพเพื่อหนีความจนมาตั้งแต่หัวยังเท่ากำปั้น ชื่อชกมวยที่เคยใช้อย่าง “ทนเอาหน่อย ต่อยใช้หนี้” ย่อมบ่งบอกถึงสภาพเศรษฐกิจส่วนตัวของเขาได้ดี

พอร่างกายเริ่มเติบใหญ่ “เจ้าโบ้” กับ “เจ้าเล็ก” รัตนชัย ส.วริพิน ผู้เป็นน้องชาย มีโอกาสได้เข้ามาชกในกรุงเทพ อยู่กับค่าย ส.วรพิน ของเจ๊วรพิน รังษีกุลพิพัฒน์ ก่อนมีโอกาสเบนเข็มมาชกมวยสากล และก้าวขึ้นถึงจุดสูงสุด ด้วยการได้เป็นแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวต 105 ปอนด์ สหพันธ์มวยนานาชาติ (ไอบีเอฟ) โดยชิงได้ด้วยการเอาชนะคะแนน แมนนี เมลชอร์ จอมเก๋าจากฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงปลายปี 2535

ด้วยสไตล์การชกบู๊ดุเดือดเหมือนลืมเกียร์ถอยหลังไว้ที่บ้าน บวกกับพลังกำปั้นหนักปานค้อนทุบ ไล่จ้วงผู้ท้าชิงพังพาบไปนักต่อนัก รัตนพล ในวันที่เฟื่องสุดขีด จึงถือเป็นนักชกขวัญใจชาวไทย และมีคิวป้องกันแชมป์โลกถี่ยิบที่สุดคนหนึ่ง นักการเมืองหลายจังหวัดจองคิวจัดเจ้าตัวชกป้องกันตำแหน่งกันชนิดข้ามปี โดยนอกเหนือจากการตกตาชั่งทำให้เสียเข็มขัดไปช่วงสั้น ๆ ในปี 2539 ที่เหลือ “เจ้าโบ้” ตะบันผู้ท้าชิงคาคอกเกือบทุกคน

แต่นักมวยไม่ใช่พระเอกหนังบู๊ที่จะชนะตลอดไป 27 ธ.ค. 2540 รัตนพล ดวงแตกแพ้ทีเคโอ โซลานี เปเตโล จากแอฟริกาใต้ ที่ จ.สงขลา เสียแชมป์โลกชนิดไฟไหม้สำเพ็ง หลังจากนั้น ชีวิตการเป็นพ่อค้ากำปั้นของ “เจ้าโบ้” ก็เข้าสู่ “ขาลง” อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นเขามีโอกาสชิงแชมป์โลกรุ่นไลต์ฟลายเวต 108 ปอนด์ ของ ไอบีเอฟ ที่อเมริกาอีก 2 ครั้ง แต่ก็แพ้คะแนน วิลล์ กริกส์บี จากสหรัฐ และพ่ายทีเคโอ ริคาร์โด โลเปซ ยอดมวยเม็กซิกัน แค่ยก 3 ก่อนจะแขวนนวมไปอย่างถาวรหลังแพ้ เรย์ มิเกรโน จากฟิลิปปินส์ ในปี 2552

หลังแขวนนวม ชีวิตของ รัตนพล น่าจะมีกินมีใช้ไม่ลำบาก เพราะเจ้าตัวเป็นแชมป์โลกยาวนาน มีคิวป้องกันแชมป์สม่ำเสมอ แต่ในความเป็นจริงกลับไปเป็นอย่างนั้น ไม่กี่ปีต่อมาหลังเลิกมวย “เจ้าโบ้” ตกเป็นข่าวว่าชีวิตลำบาก เงินทองไม่เหลือ ต้องประกอบอาชีพขับรถขายบะหมี่เกี๊ยว หรือแม้กระทั่งเดินขายซีดีตามร้านข้าวต้ม ไม่เหลือออร่าของอดีตแชมป์โลก

ถามว่าเงินทองมันหายไปไหนหมด ก็คงตอบแทนเจ้าตัวได้ยาก มีข่าวว่าตอนชกมวย รัตนพล ได้ค่าตัวไม่ค่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย จริงหรือไม่ก็ต้องไปสอบถามกันเอาเอง หรือมันอาจจะเป็นเพราะเจ้าตัววางแผนชีวิตไม่ดี เราคนที่อยู่วงนอกคงไม่อาจบอกได้ แต่ที่แน่ ๆ คือจนถึงตอนนี้ ชีวิตของ “เจ้าโบ้” ก็ยังคงต้องปากกัดตีนถีบ ขายบะหมี่เกี๊ยวอยู่แถวถนนข้าวสารเพื่อเลี้ยงชีพ

กระทั่งล่าสุด อดีตแชมป์โลกรายนี้ ตกเป็นข่าวอีกครั้ง หลังลูกสาวของเจ้าตัว ร้องเรียนเพจดังว่าพี่ชาย ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ รัตนพล ตกเป็นทาสยาเสพติดงอมแงม แถมมีการขู่อ่ฆาตและทำร้ายร่างกายผู้เป็นพ่อจนหน้าบวมปากเจ่อเป็นครุฑ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล เพราะกลัวว่าพี่จะทำร้ายคนในครอบครัวอีก เพราะมีการขู่ว่าจะเอาปืนยิงทุกคนให้ตาย ขณะที่ตัวของ รัตนพล ก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สน.ชนะสงคราม แต่ไม่ต้องการแจ้งความเอาผิด เพราะยังไงก็เป็นลูกในไส้ แค่อยากให้ลูกไปเข้ารับการบำบัด เพื่อกลับมาทำมาหากิน และอยู่ในสังคมต่อไปก็เท่านั้น

พุดไปแล้วก็กรู้สึกเศร้าแทน “เจ้าโบ้” ทั้งที่ครั้งหนึ่งเขาเคยสร้างความสนุกตื่นเต้นให้คนไทยได้ชื่นชม แต่ชีวิตหลังเลิกมวยกลับต้องเจอมรสุมชีวิตพัดกระหน่ำไม่หยุดหย่อน ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าบรรดาผู้ที่เคย “ได้รับผลประโยชน์” สมัยที่ “เจ้าโบ้” เคยเอาหยาดเหงื่อและหมดเลือดเข้าแลกบนสังเวียนนั้น ได้เคยเข้ามาช่วยเหลือดูแลกันบ้างหรือไม่ ถ้าเคยก็ชื่นชมและปรบมือให้

แต่ถ้าไม่ ทำเถอะครับ อย่าดูแลกันแค่ในวันที่เขายังโด่งดังและมีประโยชน์ต่อตัวคุณ จงช่วยเหลือกันในวันที่ลำบากด้วย อย่างไรเสียเขาก็เคยเป็นหนึ่งในฮีโร่ของแฟนมวยชาวไทย…

ผยองเดช