การเปลี่ยนผ่านจากกองเรือดีเซล-ไฟฟ้า เป็นเรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ทำให้ออสเตรเลีย มีความสามารถด้านพิสัยทำการ, การลอบเร้น และการโจมตีเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความสามารถที่สำคัญ เนื่องจากรัฐบาลแคนเบอร์รา ต้องพึ่งพาการขนส่งสินค้าทางทะเล เพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และอาศัยสายเคเบิลใต้ทะเล สำหรับการโทรคมนาคม

ออสเตรเลียเตรียมซื้อเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนียของสหรัฐ มาถึง 5 ลำ ภายในช่วงทศวรรษที่ 2030 ก่อนสร้างเรือดำน้ำลำใหม่ที่ออกแบบโดยสหราชอาณาจักร ที่อู่ต่อเรือในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ภายใต้กติกาความร่วมมือไตรภาคี “ออคัส” อีกทั้งประมาณปี 2570 เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ของสหรัฐ คาดว่าจะถูกนำไปประจำการ ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียด้วย

ทั้งนี้ การเปลี่ยนจากเรือดำน้ำธรรมดา 6 ลำ เป็นกองเรือขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์นั้น มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 100,000-170,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2.3-3.9 ล้านล้านบาท) นับเป็นโครงการป้องกันประเทศขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยมีมาของออสเตรเลีย

Al Jazeera English

นายปีเตอร์ ดีน ผู้เขียนร่วม เอกสารประเมินยุทธศาสตร์ด้านกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ คือ ส่วนสำคัญที่ทำให้สหรัฐมีความได้เปรียบเหนือกองทัพเรือของจีน ซึ่งมันจำเป็นอย่างยิ่งที่ออสเตรเลีย จะต้องมีความสามารถแบบเดียวกัน เพื่อขัดขวางจีน หรือต่อสู้ “หากจำเป็น” เนื่องจากจีนขยายกองเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ และปฏิบัติการลึกเข้าไป ในน่านน้ำทางตอนเหนือของออสเตรเลีย

แม้จีนจะมีกองเรือขนาดใหญ่ รวมถึงเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ถึง 12 ลำ และมีแผนที่จะสร้างเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถี ภายในช่วงกลางทศวรรษนี้ แต่นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่า จำนวนเหล่านั้น สามารถเอาชนะได้ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่า

นอกจากนี้ สหรัฐต้องการที่จะตั้งฐานเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ในออสเตรเลียมานานแล้ว แม้สิ่งนั้นเป็นวิธีแก้ปัญหาระยะสั้นภายใต้ออคัส แต่มันอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “อย่างมีนัยสำคัญ”

อีกด้านหนึ่ง ผลการสำรวจของคลังสมอง “สถาบันโลวี” เผยให้เห็นว่า ชาวออสเตรเลียมองว่า จีนเป็นภัยคุกคาม อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกี่ยวกับเรือดำน้ำ ยังคงเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง แม้มันจะได้รับการสนับสนุนจาก 2 พรรคใหญ่ และอาจเผชิญกับการคัดค้านจากบางชุมชน

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ผู้นำออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียจะรักษาอำนาจอธิปไตยในการตัดสินใจ ในฐานะที่เข้าร่วมพันธมิตรออคัส ตั้งแต่เรื่องคนงานที่จะสร้างเรือดำน้ำ ไปจนถึงโครงการฝึกอบรมต่าง ๆ ซึ่งแม้อัลบาเนซีปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเรื่องเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ แต่เขาระบุว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะทำให้แน่ใจว่า มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในด้านการป้องกันประเทศ.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES