ฤดูกาลที่แล้ว มิเกล อาร์เตตา กุนซือ อาร์เซนอล มีการเตรียมพร้อมเป็นพิเศษสำหรับการบุกมาเยือนแอนฟิลด์ในเกมลีก ด้วยการให้ลูกทีมลงซ้อม แล้วเปิดเพลง ‘You’ll Never Walk Alone’ คลอไปด้วย นัยว่าให้ลูกทีมคุ้นเคยกับบรรยากาศที่เข้มข้นของรังเหย้า ลิเวอร์พูล

แต่สุดท้ายบรรยากาศของแอนฟิลด์ก็ทำให้ อาร์เตตา ธาตุไฟแตก เขามีปากเสียงกับ เจอร์เกน คลอปป์ ที่เส้นข้างสนาม ก่อนที่ “ปืนใหญ่” จะโดน “หงส์แดง” เจ้าถิ่น ถล่มยับเยิน 0-4

มาถึงฤดูกาลนี้ “ปืนใหญ่” มาเยือนแอนฟิลด์ ในฐานะจ่าฝูงที่โดนผู้ท้าชิงที่น่ากลัวอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี ไล่จี้เข้ามาใกล้ขึ้นเรี่อย ๆ ความกดดันในการมาเยือนแอนฟิลด์คราวนี้ย่อมเพิ่มจากปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า อาร์เตตา จะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ขุนพล “ปืนใหญ่” เล่นได้อย่างโดดเด่น และขึ้นนำก่อนถึง 2-0 โดยที่รูปเกมเหนือกว่า ขณะที่แฟนบอลในแอนฟิลด์ก็พากันอึ้งกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า

แต่ทันทีที่ กรานิต ชากา นอกเกมใส่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แล้วมีปัญหากระทบกระทั่งกันจนโดนใบเหลือง มันเหมือนเป็นการกดปุ่มเปิดสวิตช์ให้แฟนบอลในแอนฟิลด์ กลับเข้าสู่โหมด “เขย่าขวัญผู้มาเยือน” เหมือนที่เคยอีกครั้ง

และขณะเดียวกัน มันก็กลายเป็นการ “จุดไฟ” ให้นักเตะ “หงส์แดง” ฮึดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ…!

ประตูไล่ตีตื้น 1-2 ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในช่วงท้ายครึ่งแรก ทำให้งานของ “หงส์แดง” ในครึ่งหลังไม่ได้ยากระดับเข็นครกขึ้นภูเขา ยิ่งช่วงพักครึ่งมีเหตุการณ์ผู้ช่วยผู้ตัดสินตีศอกใส่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน อารมณ์พลุ่งพล่านภายในห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวของ ลิเวอร์พูล น่าจะพุ่งชนเพดาน

จึงไม่น่าแปลกใจที่ลูกทีมของ เจอร์เกน คลอปป์ จะไล่กระหน่ำผู้มาเยือนจนโอนไปเอนมาในครึ่งหลัง มีโอกาสยิงนับไม่ถ้วน ตามสถิติบอกว่าตลอดทั้งเกม ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษมากถึง 19 ครั้ง ซึ่งถือว่าเยอะมาก

ก่อนที่สุดท้าย โรแบร์โต ฟีร์มิโน จะทำประตูตีเสมอให่ “หงส์แดง” ได้ในนาทีที่ 87 แบ่งแต้มจากจ่าฝูงได้สำเร็จแบบน่าชนะ หลังจาก ซาลาห์ พลาดจุดโทษแถม อารอน แรมส์เดล นายทวารทีมเยือนโชว์เซฟระดับเวิลด์คลาสไปอย่างน้อย 2 ครั้ง

ภาพรวมถือเป็นเกม 5 ดาวที่มีครบทุกรสชาติ แต่กลายเป็นว่าหลังจบเกมสถานการณ์มันกลับกัน ลิเวอร์พูล ที่ก่อนเกมถูกมองว่าเป็นรอง กลับเป็นฝ่ายเสียดายที่ได้แค่แต้มเดียวจากเกมนี้ ขณะที่ “ปืนใหญ่” ที่มาแบบเป็นต่อ กลับถูกมองว่าโชคดีที่มีแต้มกลับออกไป

และกลายเป็นว่าตอนนี้ อาร์เซนอล ไม่ได้กุมชะตาลุ้นแชมป์ในมือตัวเองแบบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เมื่อพวกเขานำ แมนฯ ซิตี 6 แต้ม และแข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด โดยที่ยังมีเกมยากอย่างการเยือน นิวคาสเซิล และ “เรือใบสีฟ้า” รออยู่ ซึ่งหากลูกทีมของ เปป กวาร์ดิโอลา ชนะทุกเกมที่เหลืออยู่ พวกเขาสามารถแซงคว้าแชมป์ในบั้นปลายด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่าเป็นอย่างน้อย

ส่วน ลิเวอร์พูล เกมนี้แสดงให้เห็นว่าแม้นี่จะเป็นซีซั่นที่อะไรหลาย ๆ อย่างไม่เป็นใจ ไม่ลงตัว จนผลงานออกมา 3 วันดี 4 วันไข้ แต่สุดท้าย ทีมที่ไปเยือนแอนฟิลด์ก็ไม่สามารถประมาทพวกเขาได้

เพราะแฟนบอลและบรรยากาศเข้มขลังในแอนฟิลด์ สามารถเป็นยาเพิ่มพลังพิเศษให้ขุนพล “หงส์แดง” ได้เสมอ…