“พลเอก สุรยุทธ์” ร่วมฟังการเสวนาในหัวข้อ “พหุวัฒนธรรมความเป็นหนึ่งเดียวกัน” และให้โอวาทแก่เยาวชน 320 คนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่น 40 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันที่ 28 เมษายน 2566 ที่ อาคารหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” และน้องๆเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ ตลอดจนครูพี่เลี้ยง ที่ร่วมกิจกรรมกว่า 400 คน ในโอกาสนี้ ประธานได้ร่วมรับฟังการเสวนา ในหัวข้อ “พหุวัฒนธรรมความเป็นหนึ่งเดียวกัน” ตัวแทนจากเยาวชนทั้ง 5 จังหวัด จากนั้นได้กล่าวให้โอวาทและข้อคิดแก่เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม “ศึกษา เรียนรู้ ค่ายประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม” โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่น 40 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและประทับใจ

โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 40 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 เมษายน 2566 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำเยาวชนทั้ง 320 คน และครูพี่เลี้ยง ทัศนศึกษาเริ่มต้นที่ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เยี่ยมชมกุโบร์ท่านเจ้าพระยาบวรราชนายก(เฉกอะหมัด) ชมพิพิธภัณแห่งชาติเจ้าสามพระยา ชมความสวยงามของวัดไชยวัฒนาราม และโบสถ์ยอแซฟ จากนั้น ได้ร่วมรับฟังการบรรยายในหัวข้อ “พหุวัฒนธรรมสร้างชาติ” “ประวัติอยุธยา และความผูกพัน ของ 3 ศาสนาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “จากคาบสมุทรมลายู สู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา” และ การเรียนรู้การฝึกอาชีพพื้นเมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อต้องการให้เยาวชน ได้ศึกษาเรียนรู้ เยี่ยมชม ความเก่าแก่ ความโบราณของบ้านเมืองพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอื่นๆ เพื่อให้ตระหนักรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นที่รวมพล รวมใจ และเทคโนโลยี มีทั้งความร่วมมือ ความรัก ความสามัคคี นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองให้เยาวชนได้เห็น อดีตจะสอนให้เรารูจักปรับตัวเพื่อต่อสู้กับอนาคต ดังนั้น เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมและร่วมกันสานสัมพันธ์ความสามัคคี ส่งผลให้เกิดความเข้าใจ และสามารถพัฒนาตนเองให้เติบโตขึ้นเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพในอนาคต (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

จังหวัดสระบุรี ประกอบพิธีอัญเชิญเครื่องราชสักการะเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในพระราชพิธีสงกรานต์ประจำปี 2566

วันที่ 26 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในพระราชพิธีสงกรานต์ ณ วัดพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี โดยประธานในพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นำผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวอาเศียรวาทถวายราชสดุดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จุดธูป เทียน ถวายเครื่องราชสักการะ พระพุทธฉายหรือรูปเงาพระพุทธเจ้า

จากนั้นเวลา 09.50 น. นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เดินทางไปยังอำเภอพระพุทธบาท เพื่อประกอบเครื่องราชสักการะเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีประธานในพิธี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ และนำผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวอาเศียรวาทถวายราชสดุดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นนำหัวหน้าส่วนราชการถวายเครื่องราชสักการะ สรงน้ำรอยพระพุทธบาท คลุมผ้ารอยพระพุทธบาท พร้อมห่มผ้าสรงน้ำและห่มผ้าพระพุทธรูปถ้ำวิมานจักรีในอาคารวิหารหลวงวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร และพระพุทธรูปหลวงพ่อโตประจำถ้ำประทุน หลังจากเสร็จพิธีถวายเครื่องราชสักการะในพระราชพิธีสงกรานต์แล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เครื่องอุปโภค ให้กับคนไร้ที่พึ่งภายในสถานสงเคราะห์ถ้ำประทุน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ด้วย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทั้งนี้ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนานั้น ตามโบราณราชประเพณีพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ได้เกื้อกูลตั้งแต่สถาปนาพุทธจักร จัดระเบียบปกครองคณะสงฆ์ สร้าง บูรณะ และปฏิสังขรณ์พระอารามหลวง บำรุงการศึกษา การปฏิบัติในพระปริยัติธรรม ทรงอุปถัมภ์ให้มีการสังคายนา พระไตรปิฎก ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ เพื่อเป็นหลักให้พุทธศาสนิกชนได้ยึดถือศึกษาปฏิบัติตามโบราณราชประเพณีทุกประการ (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

ผู้ว่าฯ อยุธยา นำคณะร่วมประชุม มท.1 เพื่อเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง ส.ส. 14 พฤษภาคม 66 พร้อมกันทั่วประเทศ ย้ำ ข้าราชการทุกคน “ต้องวางตัวเป็นกลาง”

วันที่ 27 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมริชมอนด์ แกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำคณะปลัดจังหวัดและนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ร่วมประชุมฯ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 และติดตามการขับเคลื่อนงานตามภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวม 1,400 คน ร่วมประชุม

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 ในวันนี้ถือว่าเป็นวาระสำคัญยิ่งของประเทศชาติ ตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น โดยมีประเด็นที่สำคัญ 2 ส่วน ที่จะต้องเน้นย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ ในการปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบ คือ การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง และการปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการเขตเลือกตั้งในพื้นที่ จำนวน 400 เขตเลือกตั้ง

สิ่งสำคัญที่จะต้องเน้นย้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอ ประการแรก คือ ทุกท่านเป็นข้าราชการพลเรือน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง และวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักฝ่ายใด ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และอีกประการหนึ่ง คือ การเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่หนึ่งที่ต้องรับผิดชอบทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง และต้องดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งในเขตและนอกเขตเลือกตั้ง ร่วมกับตำรวจ ทหาร ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในทุกช่องทาง ทั้งกลไกในระดับพื้นที่ ลงไปเคาะประตูบ้าน สร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในชุมชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งผู้แทนของประชาชนมาทำหน้าที่แทนประชาชน มาบริหารประเทศชาติของเรา นอกจากนี้ ต้องสร้างการรับรู้ในส่วนของบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน “ThaiD” ที่สามารถยืนยันตัวตนที่คูหาเลือกตั้งได้ โดยขอให้กรมการปกครองได้หารือร่วมกับทาง กกต. เพื่อให้เกิดความเข้าใจของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งในการแสดงตนของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยแอปพลิเคชันดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง ให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพื่อให้ได้ผู้แทนของประชาชนที่มาจากประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” พลเอก อนุพงษ์ กล่าว (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)


จังหวัดสิงห์บุรี โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ครั้งที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมนายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ลำน้ำแม่ลา เป็นการอนุรักษ์พันธุ์ปลาน้ำจืดของประมงจังหวัดสิงห์บุรี ในโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎกุมาร ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ โรงเรียนวัดแหลมคาง ตำบลแม่ลา อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี โดยนายปัทพงศ์ สารบรรณ์ เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมข้าราชการหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดสิงห์บุรี ได้จัดทำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่อันเป็นโครงการฯ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ในพุทธศักราช 2545 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ถวาย และขอรับพระมหากรุณาธิคุณให้โครงการอยู่ในพระราชานุเคราะห์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็วสอดคล้องกับพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร

ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน มีบุคคลเป้าหมายประกอบด้วยเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอบางระจัน จำนวน 100 คน ภายในงานจัดให้มีการให้บริการคลินิกเกษตรประกอบด้วย คลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบริหารศัตรูพืช คลินิกจักรกลเกษตรจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในจังหวัดสิงห์บุรี และศูนย์ต่างๆ ระดับภูมิภาค ที่รับผิดชอบและคลิกนิกเสริมจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ อาทิ ศูนย์ป่าไม้สิงห์บุรี สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สสว. และบริษัท คูโบต้า สิงห์บุรี จำกัด มาร่วมกันให้บริการวิชาการความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตรให้คำแนะนำและช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรเบื้องต้นให้กับเกษตรกรถึงในพื้นที่ เพื่อเป็นการลดภาระและความยุ่งยากในการที่เกษตรกรจะเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับความช่วยเหลือและสนับสนุน และยังมีการจำหน่ายสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มอาชีพให้มีรายได้ และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชน (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 “แรงงานอยุธยา ปลุกจิตอาสา สร้างอยุธยาเมืองสะอาด” พร้อมปล่อยขบวนรถตรวจเยี่ยมผู้ประกันตนทุพพลภาพ

วันที่ 28 เมษายน 2566 ที่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “แรงงานอยุธยา ปลุกจิตอาสา สร้างอยุธยาเมืองสะอาด” พร้อมปล่อยขบวนรถตรวจเยี่ยมผู้ประกันตนทุพพลภาพ จัดขึ้นโดยสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนการจัดงานจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เทศบาลเมืองอโยธยา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สถานประกอบการ สหพันธ์แรงงาน และสหภาพแรงงานนายจ้าง ร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน

ด้วยรัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันแรงงานแห่งชาติ และเป็นวันหยุดตามประเพณีของลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์และเห็นความสำคัญของ “แรงงาน” ซึ่งเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การผลิต การค้า และการบริการ มีแรงงานเป็น ผู้สร้างสรรค์ และผลผลิตที่ออกมาสร้างความเจริญเติบโตให้แก่สถานประกอบการ และประเทศชาติ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ใช้แรงงาน วันแรงงานแห่งชาติ จึงเป็นวันสำคัญของผู้ใช้แรงงานที่จะได้มีโอกาสทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ และความสัมพันธ์อันดีระหว่าง นายจ้าง ลูกจ้างและภาครัฐ

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการคุ้มครองดูแล ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน ได้เห็นความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน จึงได้จัดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “แรงานอยุธยา ปลุกจิตอาสา สร้างอยุธยาเมืองสะอาด” เพื่อเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง เกิดความสมานฉันท์ในวงการแรงงานไห้เหนียวแน่นมากขึ้น โดยจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้โครงการ “อยุธยาเมืองสะอาด” ไปพร้อมกันอีกด้วย (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ประชุมหารือและติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาสถานปฏิบัติธรรม สมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร)

วันที่ 28 เมษายน 2566 ที่ ห้องประชุมข้าวหอมปทุม ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานการประชุมหารือและติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาสถานปฏิบัติธรรม สมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) โดยมี นายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พันเอก วินัย อภัยกุลชร รองผู้อำนวยการรักษาความั่นภายในจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวถึงภาพรวมของการดำเนินงานในสถานปฏิบัติธรรมฯ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่จังหวัดได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ คือการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา ซึ่งมีการดำเนินมามาอย่างต่อเนื่องนั้น แต่เนื่องด้วย สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จะเสด็จมายังสถานปฏิบัติธรรมฯ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน จึงต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในระดับสูงสุด หน่วยงานใดมีปัญหาติดขัดต้องรีบแจ้งหารือ เพื่อแก้ไขโดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้ติดตามให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่สีเขียวแต่ละโซน รายงานความก้าวหน้าการดูแลรักษาต้นไม้ในโครงการโคก หนอง นา ให้ที่ประชุมรับทราบ (แสงกฤช – ประสิทธิ์ จิตสว่าง / ปทุมธานี)

ชัยนาทจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ โรงเรียนวัดวังน้ำขาว อำเภอหนองมะโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ โรงเรียนวัดวังน้ำขาว อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท นายศรณ์จักร์ชัย ชูวาพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชัยนาท นายอำเภอหนองมะโมง เกษตรอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรในพื้นที่ เข้ากิจกรรม

นายสุวิทย์ สอนสุข เกษตรและหสกรณ์จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จัดขึ้นเพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตร ได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร โดยการบูรณาการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรเพื่อให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุก ที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาให้ได้รับการบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยี และฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไป

ทั้งนี้ จังหวัดชัยนาท จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ โดยมีกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเปิดให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกข้าว คลินิกส่งเสริมอาชีพ คลินิกเกษตรกิจการเกษตร คลินิกบริหารศัตรูพืช คลินิกเครื่องจักรกล เป็นต้น และการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 25 หน่วยงาน โดยมีพี่น้องเกษตรกรมาร่วมพิธี และเข้ารับบริการทางการเกษตรกว่า 200 คน อีกด้วย (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

รองผู้ว่าฯ ไพรัตน์ เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนโครงการ “อยุธยาเมืองสะอาด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์และปลูกจิตสำนึกโครงการอยุธยาเมืองสะอาด พร้อมด้วย นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนคณะทำงาน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมราชบูรณะ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีทีม CSR จากบริษัทโอสถสภา ร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว

โดยที่ประชุมได้หารือแนวทางการประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมโครงการอยุธยาเมืองสะอาด และผลิตสื่อออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไป ก่อนสรุปนำเสนอต่อคณะกรรมการระดับจังหวัดต่อไป เนื่องจากปัจจุบันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสบปัญหาเกี่ยวกับการรักษาความสะอาด โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมืองที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีนโยบายให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมทุนทางสังคมบนพื้นฐานวิถีชีวิตและชุมชนเข้มแข็ง ตลอดจนการสร้างกระบวนการเรียนรู้ในสังคมให้เกิดจิตสำนึกและปลูกฝังวินัยให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้มีความสะอาด ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการอยุธยาเมืองสะอาด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

จังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสิงห์บุรี โอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย

นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมนายสัมฤทธิ์ กองเงิน นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นางอมรา ชีพสมุทร์ เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี หัวหน้าส่วนราชการ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อุทกภัย ด้านพืช ด้านปศุสัตว์และด้านประมง ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาสิงห์บุรี ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฯ 1.ด้านพืช จำนวน 6 อำเภอ 30 ตำบล 152 หมู่บ้าน เกษตรกรจำนวน 1,513 ราย พื้นที่ขอรับความช่วยเหลือจำนวน 12,920,4825 รวมเงินให้การช่วยเหลือจำนวน 20,027,293.63 บาท ดำเนินการจ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมือวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 2.ด้านปศุสัตว์ จำนวน 5 อำเภอ 16 ตำบล เกษตรกรจำนวน 123 ราย รวมเงินให้การช่วยเหลือจำนวน 412,250 บาท 3.ด้านประมงจำนวน 6 อำเภอ 27 ตำบล 112 หมู่บ้าน เกษตรกรจำนวน 400 ราย รวมเงินให้การช่วยเหลือ จำนวน 3,121,434.33 บาท

ด้วยจังหวัดสิงห์บุรีเกิดเหตุอุทกภัย (น้ำล้นตลิ่ง) เนื่องจากกรมชลประทานได้มีการระบายน้ำท้ายเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยาในอัตรา 2,200-2,300 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้จังหวัดสิงห์บุรีเกิดสถานการณ์อุทกภัย (น้ำล้นตลิ่ง) จึงได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ในเขตพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีเพื่อดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ซึ่งทางจังหวัดสิงห์บุรี ได้ดำเนินการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดสิงห์บุรี (ก.ช.ภ.จ.) เพื่อพิจารณาตรวจสอบและรับรองข้อมูลการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยอุทกภัย โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ (ก.ช.ภ.จ.) เพื่อขอรับการสนับสนุนเงินทดรองราชการในอำนาจปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

สมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสิงห์บุรี ตัวแทนมอบหนังสือภาพยนตร์แอนิเมชั่นพระมหาชนก ให้ส่วนราชการจังหวัด
คุณวันเฉลิม ชูตระกูล ผู้กำกับศิลป์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นพระมหาชนก ตัวแทนโครงการการจัดทำหนังสือภาพยนตร์แอนิเมชั่นพระมหาชนก และสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ไทย และคุณสุภาวดี ภักดิ์พิบูลย์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสิงห์บุรี มอบหนังสือและรูปพระมหาชนกให้กับ นายสัมฤทธิ์ กองเงิน พร้อมนายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายประสิทธิ์ พุ่มไม้ชัยพฤกษ์ วัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี และนายวีรยุทธ รวดเร็ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อส่งมอบให้กับหน่วยส่วนราชการ สถาบันการศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 300 เล่ม โดยหนังสือพระมหาชนก เบื้องหลังงานสร้างแห่งความเพียร เป็นการรวบรวมข้อมูลของการออกแบบและการผลิตในระหว่างปี พ.ศ. 2555-2558 ข้อมูลที่ปรากฏ เช่น วิธีทำงาน เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ใช้งานและเกิดขึ้น จนประสบความสำเร็จ (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

นครปากเกร็ด จัดประชุมผู้ปกครอง งานการศึกษาปฐมวัย ประจำปี 2566


วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด เป็นประธานเปิด โครงการจัดการประชุมผู้ปกครอง ประจำปี 2566 โดย งานการศึกษาปฐมวัย กองการศึกษา จัดโครงการดังกล่าว เพื่อชี้แจงนโยบายและแนวทางในการพัฒนาจัดการศึกษาเทศบาลนครปากเกร็ด ให้ผู้ปกครองได้รับทราบ และเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย 3 ขวบ รวมถึงได้แนะนำตัวของคุณครูที่รักษาการหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดเทศบาลนครปากเกร็ดทั้ง 10 แห่ง เพื่อให้ผู้ปกครองรู้จัก นอกจากนี้มีการบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเรื่อง “เสริมสร้างพลังชีวิตลูกหลังโควิดตั้งแต่ปฐมวัย ง่ายๆ ด้วยการกอด” ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา โรงเรียนปากเกร็ด (สมคิด – สมนึก ลือประดิษฐ / นนทบุรี)

กฟภ.เขต 3 จับมือ คพข.เขต ประชุมร่วมยุติข้อร้องเรียนคุณภาพบริการตาม พ.ร.บ.พลังงาน


นายสงกรานต์ ชุติธนธีระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายจรูญศักดิ์ นาคคล้าม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงรักษา นายปริญญา เชื้อปรางค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและบริการ และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับนายยุคล เพ็ญจันทร์ ผู้อำนวยการเขตสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 3 (นครสวรรค์) พร้อมด้วย นายอดิศักดิ์ กองทรง ประธานคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 3 (คพข.) นครสวรรค์ และคณะกรรมการฯ ตัวแทนจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สิงห์บุรี อุทัยธานี ชัยนาท และเพชรบูรณ์ รวมทั้งตัวแทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในโอกาสประชุมร่วมกับคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2566 เพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาอุปสรรคและบูรณาการร่วมแก้ไขปัญหา ในด้านปรับปรุงคุณภาพบริการ การจัดการแก้ไขแก้ไขเรื่องร้องเรียน มาตรฐานคุณภาพบริการผู้ใช้ไฟรายสำคัญและรายย่อย หลักเกณฑ์การขอขยายเขตไฟฟ้า มาตรการกำกับดูแลควบคุมสายสื่อสารและอุปกรณ์โทรคมนาคม รวมถึงขั้นตอน หลักเกณฑ์ ระยะเวลาในการงดจ่ายไฟฟ้า แนวทางการประชาสัมพันธ์สิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้พลังงาน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 4 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี จากนั้นยังได้นำคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 3 เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของศูนย์ควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี อีกด้วย (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

เครือข่าย จับมือจัดเวทีนโยบายสาธารณะประชาธิปไตยภาคพลเมือง “พลังเสียงคนลพบุรีสู่การพัฒนานโยบายของพรรคการเมือง”

ชมรมรักลพบุรีและมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (P-NET) นำโดย รศ.ดร.กาสัก เต๊ะขันหมาก ได้ร่วมมือกับเครือข่ายศูนย์ประสานงานภาคีพัฒนาจังหวัดลพบุรีและเครือข่ายภาคประชาสังคมต่างๆ ได้จัดเวทีนโยบายสาธารณะประชาธิปไตยภาคพลเมือง “พลังเสียงคนลพบุรีสู่การพัฒนานโยบายของพรรคการเมือง” โดยมีผู้แทนจากภาคประชาสังคมและองค์กรชุมชนร่วมเวทีและเสนอประเด็นปัญหารวมถึงความต้องการในเบื้องต้นทั้งหมดรวม 12 ภาคี และประเด็นการนำเสนอกว่า 12 ประเด็น และได้เชิญผู้แทนพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดลพบุรี 16 พรรค ร่วมรับฟังและนำเสนอนโยบาย แนวทางของพรรคให้กับผู้ร่วมเวทีจากภาคประชาสังคมและองค์กรชุมชนที่ ศูนย์การเรียนรู้ศิลปหัตถกรรมหล่อทองเหลืองบ้านท่ากระยาง หมู่ที่ 1 ตำบลลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

วิทยาลัยเทคนิคชัยนาทจัดโครงการบริการซ่อม สร้างอาชีพ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fixit Center)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณ ตลาดโรงพักเก่าสรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท นายบัณฑิต ออกแมน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคชัยนาท พร้อมด้วยนายจักรพันธุ์ ตันติเสรีรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลสรรพยา ร่วมกันเปิด โครงการบริการซ่อม สร้างอาชีพ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fixit Center) ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการพัฒนา และยกระดับคุณภาพศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน ในการให้บริการประชาชน ซึ่งการออกหน่วยให้บริการในครั้งนี้ จะมีการซ่อมบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน รถจักรยายนต์ ฯลฯ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน นอกจากนี้ ยังถือเป็นการสร้างอาชีพและฝึกทักษะให้กับผู้ว่างงานอีกด้วย (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)